มวลชนส้ม แห่ฟัง “ก้าวไกล” ปราศรัยเย็นนี้ จนท.ปรับแผนให้รอในตัวอาคาร เหตุคนเยอะ-อากาศร้อน ตร.ดูแลแยกทางเข้ากับพปชร.ที่ปราศรัยใกล้เคียง จับตา ”พิธา” ปราศรัยปิดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดินคำตอบสุดท้ายของประเทศ
วันนี้ (12พ.ค.) ที่อาคารกีฬาเวสน์1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น(ดินแดง)พรรคก้าวไกลจัดปราศรัยครั้งสุดท้าย ภายใต้ชื่อ "คำตอบสุดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดิน" นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง , นายปิยบุตร แสงกนกกุล , นางสาวพรรณิการ์ วาณิช ผู้ช่วยหาเสียง และแกนนำพรรคก้าวไกล โดยจะเริ่มปราศรัยในเวลา 18.00น. ซึ่งไฮไลต์สำคัญของวันนี้คือการปราศรัยของนายพิธาในการนำเสนอพรรคก้าวไกลเป็นคำตอบสุดท้ายให้ประเทศไทย
โดยลำดับการปราศรัยในวันนี้ จะเริ่มจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล /ช่อ พรรณิการ์ , นายปิยบุตร , นายธนาธร ต่อด้วย
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล , นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และผู้ปราศรัยคนสุดท้ายคือนายพิธา ซึ่งหลังจากการปราศรัยจบ ผู้สมัคร ส.ส.และแกนนำ ของพรรค นำโดยนายพิธา ก็จะเดินไปพบกองเชียร์ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่เดินทางมาในวันนี้ บริวณสนามฟุตบอลด้านข้างอาคารกีฬาเวสน์ 1 เพราะไม่สามารถเข้ามาด้านในอาคารได้เนื่องจากที่เต็ม
บรรยากาศก่อนเริ่มงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกองเชียร์มารอตั้งแต่เวลา 07.00น.ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง เนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีที่นั่ง จากนั้นในช่วงสายประชาชนเริ่มทยอยมามากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น บางคนยังไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ต้องการมาฟังวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล
ต่อมาในเวลาประมาณ 13.00น. ประชาชนมารอด้านหน้าจำนวนมาก ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เจ้าหน้าที่พรรคปรับแผน ให้มารอในตัวอาคาร โดยจะเปิดประตูให้เข้าในจุดจัดปราศรัยในเวลา 15.30 น.
ทั้งนี้แฟนคลับส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดสีส้ม หรือติดสัญลักพรรคก้าวไกลเพื่อแสดงถึงความชื่นชอบที่มีต่อพรรค หนึ่งในนั้นคือนายนฤทธิ์ ใหญ่โสมานัง เจ้าของธุรกิจส่วนตัวอายุ 53ปี ที่วันนี้มาในชุดเสื้อคลุมคล้ายกิโมโนของญี่ปุ่น โดยบอกความหมายว่าญี่ปุ่นเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ในสงคร่ามโลกครั้งที่ 2 แต่สามารถกอบกู้ประเทศขึ้นมาใหม่ได้จนกลายเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ เหมือนกับพรรคส้มที่โดนยุบพรรคไปแล้วแต่ก็ยังสร้างพรรคใหม่ขึ้นมาได้ ไม่มีนายธนาธรก็มีนายพิธา และหากไม่มีนายพิธาก็ยังมีคนอื่นๆขึ้นมาใหม่
นอกจากนี้ตนฟังพรรคก้าวไกลปราศรัย ยังชื่นชอบการสื่อพลังของพรรค และกองเชียร์ก็ส่งพลังกลับไป ซึ่งไม่เคยเห็นพรรคการเมืองอื่นเป็นแบบนี้
เมื่อถามว่าชื่นชอบอะไรในพรรคก้าวไกล นายนฤทธิ์กล่าวว่าชอบนโยบายของพรรคที่ตอบโจทย์ ตนคิดว่าตัวบุคคลเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้น นอกจากนี้นายพิธายังวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของประเทศได้ตรง และเข้าใจพื้นที่ พร้อมให้กำลังใจนายพิธาว่า "สู้ๆนะพ่อ มันไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวก็ผ่านไป"
สำหรับเวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกลแบ่งเป็น 2โซน คือด้านในอาคารกีฬาเวสน์ที่รองรับผู้ฟังปราศรัยได้ 4,000 คน ส่วนบริเวณด้านนอกอาคารบริเวณสนามฟุตบอลรองรับได้ประมาณ 7,000 คน ซึ่งมีการติดตั้งจอแอลอีดีให้รับฟังการปราศรัยเช่นเดียวกับในตัวอาคาร
โดยทางพรรคได้จัดเตรียมการแปลสดภาษามือไว้รองรับผู้บกพร่องทางการได้ยินไว้บริเวณด้านขวาของเวที
ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย มีการจัดกำลังตำรวจดูแลรอบศูนย์เยาวชน โดยแบ่งทางเข้าสำหรับเวทีพรรคก้าวไกลและพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดการปราศรัยอยู่ในอาคารกีฬาเวสน์ 2ให้ใช้คนละประตู ส่วนทางเข้าอาคารกีฬาเวสน์1 มีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจอาวุธ รวมทั้งจุดบริการด้านการพยาบาลด้านหน้าอาคารด้วย
ทั้งนี้มีผู้ฟังปราศรัยพรรคพลังประชารัฐบางส่วนเดินทางมาผิดอาคาร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องชี้แจงเพื่อให้ทุกคนได้ฟังปราศรัยในพรรคที่ตัวเองสนใจ