วันนี้(11 พ.ค.)นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวถึงผลโพลเลือกตั้งของหลายสำนักในขณะนี้ ว่า แม้ผลสำรวจคะแนนเลือกตั้งจะออกมาในรุปแบบไหน แต่หลายพรรคการเมืองพยายามจะโฆษณา ชี้นำว่ากลุ่มตัวเอง ได้คะแนนนำแบบแลนด์สไสด์ นั่นเป็นเพียงแค่การสร้างจิตวิทยาหมู่เท่านั้น เพราะท้ายสุดเราต้องดูถึงความรู้สึก ความคิด และการตัดสินใจของประชาชนผู้เลือกว่าเขาต้องการถึงความมั่นคง ความสงบ และการเดินหน้าทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
แต่หากให้วิเคราะห์การเมืองหลังการเลือกตั้ง นายถาวร เชื่อมั่นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ โดย พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้คะแนนนำ และมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล หากมีคะแนนก้ำกึ่ง หรือพ่ายแพ้เพียงเล็กน้อย ตามรัฐธรรมนูญก็เปิดช่องให้วุฒิสภา มีอำนาจเข้ามาเลือกได้ตามวิถีของประชาธิปไตยได้
นายถาวร มองถึงความเป็นไปได้ หาก พล.เอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลือกจะจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อย เพราะถ้าคำนึงถึง ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ก็บริหารจัดการประเทศได้ เหมือนในอดีตสมัยของ หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็สามารถทำหน้าที่เป็นรัฐบาลด้วยเสียงข้างน้อยมาแล้วเช่นกัน แต่ รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ พล.เอก ประยุทธ์ จะอยู่ได้นานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่ที่ประสิทธิภาพการบริหารงาน ว่าจะยึดถือประโยชน์ของประชาชน และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และยึดสถาบันหลักเป็นที่ตั้งหรือไม่ หากทำหน้าที่ได้ดีแล้ว แต่มีการทุจริตเกิดขึ้น เชื่อว่า รัฐบาลไหนๆ ก็อยู่ต่อ ไม่ได้อย่างแน่นอน
“...เสียงของฝ่ายค้าน ยกมือให้รัฐบาลก็มี เอกสิทธิ์ของ ส.ส. ถ้าไม่สังกัดกฎเหล็ก จะผิดหรือถูก เขาก็ตัดสินใจโดยยึดหลักประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก อย่าไปดูถูกเขา แมวจะสีอะไร ขอให้จับหนูได้ นี่คือปรัญชญาของผู้นำจีน จึงฝากคนที่มีอำนาจเข้ามารับผิดชอบบ้านเมือง ขอเป็นแมวที่จับหนูได้...”
นายถาวร ยังฝากย้ำ ถึงรัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามาบริหารประเทศหลังการเลือกตั้งด้วยว่า ขอให้ถอด บทเรียนการเมืองไทย สมัย ปี 2534 2549 และโดยเฉพาะ ปี 2557 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พบการทุจริตอย่างมโหฬาร แสดงให้เห็นแล้วว่าทุกรัฐบาลที่มีการทุจริตก็ไปต่อไม่ได้ เพราะมะเร็งร้าย หรือ วิกฤตประเทศ คือการทุจริต นั่นเอง