“อัศวิน นิลเต่า” ผู้สมัครเขต 4 พปชร. พิษณุโลก โพสต์แจ้ง FC ขอสละสิทธิ์เป็นผู้สมัคร ส.ส. เผยสาเหตุ พรรคไม่สนับสนุนเท่าที่ควร ประเมินตัวเองเข้าป้ายเป็นอันดับ 4
วันนี้ (11 พ.ค.) โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เขต 4 พิษณุโลก นายอัศวิน นิลเต่า ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอัศวินรุ่นเก่าใจ ระบุว่า แจ้ง FC และผู้สนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งนี้ขอสละสิทธิ์ไม่ขอรับเป็นผู้สมัคร
การโพสต์ดังกล่าว สร้างความมึนงงให้กับผู้สนับสนุนและผู้ติดตามนายอัศวินพอสมควร ต่างเข้ามาคอมเมนต์ ถามถึงเหตุผลและส่งกำลังใจให้ โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า เคารพการตัดสินใจของนายอัศวิน โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายอัศวิน ณ ที่ทำการ บ้านวังกุ่ม ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่ง นายอัศวิน เปิดใจว่า ได้คิดมาหลายวันแล้ว และได้ตัดสินใจโพสต์เมื่อเช้านี้ หลังจากได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย กกต. พิษณุโลก ว่า จะขอสละสิทธิ์ออกจากการเป็นผู้รับสมัครเลือกตั้งได้หรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบจากฝ่ายกฎหมาย กกต.ว่า ไม่สามารถทำได้ จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความเพื่อแจ้งให้กับผู้สนับสนุนทราบ
“ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผมได้ยุติการหาเสียงทั้งหมดแล้ว โดยรถแห่ทั้งหมด 12 คัน ที่ได้ว่าจ้างได้วิ่งวันละ 1,000 บาท ให้นำป้ายหาเสียงติดรถแห่มาคืน ณ ที่ทำการพรรคของตน และได้จ่ายค่าจ้างทั้งหมดไม่มีการติดค้างใดๆทั้งสิ้น ขณะนี้ยังคงเหลือการหาเสียงในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 ที่ยังดำเนินการให้อยู่ ยังว่าจ้างให้ทีมงาน ไปแจกตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อให้มีการเลือกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนผมนั้นไม่หาเสียงแล้ว และไม่ได้สนใจด้วยว่าจะได้กี่คะแนน รวมทั้งผมก็จะไม่ลงคะแนนให้ตัวเองด้วย”
สำหรับบรรยากาศที่ทำการพรรคได้มีป้าย แผ่นพับ และจดหมายปิดผนึกพร้อมข้อความขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ให้โอกาสเป็นตัวแทนทำหน้าที่สร้างโอกาสในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน พร้อมกับแนบแผ่นพับของพรรค ให้ประชาชนทุกหลังคาเรือน แต่ไม่ทันได้แจกเพราะถอดใจเสียก่อน โดยที่ทำการพรรคยังคงมีทีมงานช่วยหาเสียงมาร่วมตัวกันเพื่อให้กำลังใจนายอัศวินอย่างไม่ขาดสาย
นายอัศวิน เปิดใจอีกว่า สาเหตุที่อยากสละสิทธิ์ ไม่ขอเป็นผู้สมัครอีก เพราะไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจากพรรค ไม่เหมือนผู้สมัครของเขตอื่นหรือผู้สมัครในเขตความหวัง ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากพรรคจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ด้วยขณะนี้คงไม่สามารถต่อสู้กับผู้สมัครในเขตได้ เหมือนกับน้ำมันที่เติมในรถ ผู้สมัครพรรคอื่นๆ ได้เติมน้ำมันเต็มร้อย ส่วนตนเองได้เพียงน้อยนิด สู้ไปก็ไม่ทันเขา ได้เป็นเพียงแค่ไม้ประดับ ถ้าได้รับการสนับสนุนมากพอ เชื่อว่า ยังพอสู้ได้สูสี ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ประเมินตัวเองไว้ว่า น่าจะได้ อยู่ลำดับที่ 4 ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ของพิษณุโลก
สำหรับการลงสมัครรอบนี้ นายอัศวินได้รับการทาบติดต่อจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ดูแลสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือของพรรคพลังประชารัฐ และเป็นการลงสมัครครั้งที่ 2 ในนามพรรคพลังประชารัฐ การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นายอัศวินได้มาประมาณหมื่นคะแนน