“ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต. สอบสื่อทีวี รายงานข่าวเลือกตั้งไม่เป็นกลาง จัดดีเบตหน้าซ้ำ ทำได้เปรียบพรรคอื่น ขู่นิ่งเฉย เตรียมรับแรงกระแทก อาจทำเลือกตั้งโมฆะ
วันนี้ (10 พ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบการรายงานข่าวการจัดประชันนโยบายของพรรคการเมือง หรือการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของสื่อมวลชนบางสำนัก ที่ไม่มีความเท่าเทียม เสมอภาค ทำให้เกิดข้อได้เปรียบกับพรรคการเมืองบางพรรค
โดย นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตั้งแต่มี พ.ร.ฎ.ยุบสภา ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. ได้เฝ้าสังเกตการณ์การทำงานของสื่อมวลชน พบว่า มีสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าว รายงานกิจกรรมการหาเสียงของ ส.ส. และพรรคการเมือง อาจจะไม่เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 แก้ไขเพิ่มเติม ที่ระบุว่า ห้ามผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดใช้สื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หาเสียงเว้นแต่เป็นไปตามที่ กกต.กำหนด ซึ่ง กกต. กำหนดว่า การหาเสียง หรือการรายงานข่าวของสื่อมวลชนนั้นจะต้องเสนอภาค เป็นกลาง และเที่ยงตรง แต่ที่ผ่านมา พบว่า มีสื่อมวลชนบางสำนัก โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ มักจะเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้ง เชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาออกโทรทัศน์ โดยเฉพาะการจัดดีเบต ซึ่งในการจัดในหลายครั้งก็สังเกตว่าส่วนใหญ่จะเชิญพรรคการเมืองมาไม่ถึง 10 พรรคการเมือง ส่วนใหญ่เป็นพรรคเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคไทยสร้างไทย เป็นต้น ซึ่งเชิญไม่เกิน 10 พรรค ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเกือบ 70 พรรคการเมือง มีผู้สมัคร 4,781 คน
ดังนั้น จึงถือเป็นการลำเอียง ไม่เสมอภาค และเที่ยงธรรมในการรายงานข่าว และสื่อบางช่องรายงานข่าวผู้สมัครบางคนทุกวัน โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่เกี่ยวพันกับนักการเมือง ซึ่งอาจจะมีภรรยาไปลงเลือกตั้ง ส่วนตัวคิดว่าการเสนอข่าวแบบนี้ทำให้เกิดผลได้ และผลเสียต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งบางคนบางพรรค จึงมาร้องให้ กกต.บังคับใช้กฎหมาย หรือสั่งการไปยังสื่อสำนักต่างๆ ว่าดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ชี้นำ ลำเอียง หรือรายงานข่าวเฉพาะคนที่ตัวเองสนใจ เพราะกฎหมายก็คือกฎหมายต้องยึดถือความเสมอภาค ความเป็นกลาง และเที่ยงตรง จึงจำเป็นต้องมายื่นให้กกต. รับรู้และดำเนินการตามประเด็นที่กฎหมายกำหนด หากกกต.เพิกเฉยหลังเลือกตั้งก็จะมีประเด็นที่นำมาสู่การฟ้องร้อง ซึ่งอาจจะนำไปสู่การทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้
เมื่อถามว่า ขณะมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด นายศรีสุวรรณ จึงไม่ร้องเรียนพรรคการเมืองอื่นบ้าง เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะกรณีการหาเสียงโดยยิงแสงเลเซอร์ไปบนสะพานพระราม 8 นายศรีสุวรรณ ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า แล้วมีประเด็นผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนก็เคยร้องเรียนเรื่องของการปราศรัยดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มานั้น ตนได้ร้องเรียนไปแล้ว ส่วนเรื่องพระราม 8 ขอให้ไปอ่านในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน ว่า มีหนังสือของ กกต. ตอบกลับไปยังพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า การใช้สื่อดิจิทัลดังกล่าวนั้น ไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้น เมื่อไม่ผิดกฎหมาย ส่วนตัวเป็นนักกฎหมาย จะไปร้องให้อายตัวเอง แต่ในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจจะไม่เหมาะสมก็ได้ แต่ในแง่กฎหมายนั้นอาจจะไม่ผิด เพราะ กกต.กล่าวไปอย่างนั้นแล้ว