วันนี้(9 พ.ค.)นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงข้อเสนอของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ระบุให้ คดีตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ให้ลดโทษจากเดิม ที่ระบุว่า ให้มีโทษจำคุก 3 - 15 ปี เหลือเพียงแค่ 1 ปีว่า ยืนยันว่า ตนและพรรคไทยศรีวิไลย์ มีจุดยืนที่จะไม่แก้ไขมาตรา 112 ถือว่า เป็นจุดยืนที่มาจากสามัญสำนึกของคนไทย อย่างไรก็ตาม การที่มีข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ที่ให้มีการลดโทษมาตรา 112 จนเหลือเพียงโทษจำคุกแค่ 1 ปีนั้น ตนมองว่า กรณีนี้จะทำให้คนที่กระทำผิดตามมาตราดังกล่าว ไม่มีความยำเกรงกฎหมาย และสร้างความวุ่นวายให้กับสังคมโดยรวม อีกทั้ง ตนยังเห็นอีกว่า การที่มีข้อเสนอทำนองนี้ออกมา คล้ายคลึงกับกรณีที่สภาฯ ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ โดยตอนแรกมีการอ้างว่า จะช่วยให้มวลชนพ้นผิดและไม่ต้องรับโทษ แต่จากนั้นกลับมีการสอดไส้ให้นายทักษิณ ชินวัตร พ้นผิดจากคดีทุจริตตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ทำให้มีการชุมนุมประท้วงของประชาชน จนเป็นเหตุให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจและบริหารประเทศมาจะเข้าปีที่ 9 แล้ว ดังนั้น ตนจึงขอถามนายพิธา ว่า การแก้ไขโทษในมาตรา 112 นั้น เจตนาจะทำเพื่อใครกันแน่ เพราะเมื่อไปดูคดีที่คนของพรรคก้าวไกลและเครือข่ายกระทำผิดตามมาตราดังกล่าว ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคดีที่อัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า กรณีไลฟ์สดเรื่องวัคซีนพระราชทาน นั้น ตนเห็นว่า หากมีการดำเนินการแก้ไขมาตรา 112 เสร็จสิ้นแล้ว นายธนาธร ก็น่าจะเข้าข่ายได้รับประโยชน์ไปด้วย เพราะฉะนั้น ตนขอยืนยันว่า มาตรา 112 ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับคนไทยโดยทั่วไป และถ้าเมื่อไหร่พรรคก้าวไกล เสนอเรื่องนี้เข้าสภา ตนก็จะขออภิปรายคัดค้านอย่างถึงที่สุดเช่นกัน
"ผมคิดว่า การที่โหมกระแสในการแก้ไขมาตรา 112 ในขณะนี้ โดยอ้างว่า มีคนจำนวนมากถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรมนั้น หากฟังดูอย่างเผินๆแล้ว ก็เห็นควรที่จะสนับสนุน แต่ในเมื่อมีคดีที่มีบรรดาพรรคพวกของคุณพิธาและผู้สนับสนุนกำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลฯ นั้น ก็ตีเจตนาเป็นอื่นไม่ได้นั่นก็คือการใช้กระบวนการสภา ฯ เพื่อมาล้างผิดให้พรรคพวกตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ผมเห็นว่า ทางที่ดีที่สุดคืออย่าไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายผิดกฎหมาย และไม่ควรนำมาเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมือง เพื่อสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศด้วย "
นายมงคลกิตติ์ กล่าว