“พี่ตู่” ไหว้ศาลหลักเมือง ก่อนขึ้นรถแห่รอบปัตตานี อ้อนพูดภาษาถิ่นยาวีแปลว่า “รักที่สุด” ย้ำ ไทยมี 5 ศาสนา อยู่ร่วมสันติทะเลาะไม่ได้ ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ชะตาประเทศ บอกของขึ้นเจอประเด็นคำพูด “ลูกไม่ต้องรักพ่อแม่” เตรียมปราศรัยปิดท้ายศูนย์สิริกิติ์ 12 พ.ค.ก่อนแห่รอบเมือง 13 พ.ค.
วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางถึงเทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เพื่อหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย นายไฟซอล อีสเฮาะ ปัตตานี เขต 1 นายศิรวัชโชติ รัตนมาลา เขต 2 นายซาตา อาแวกือจิ เขต 3 นายอริญชัย ซูสารอ เขต 4 และนายยุซรี ซูสารอ เขต 5
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กราบสักการะศาลหลักเมือง เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงรอบเมืองและปราศรัย โดยมีประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมาก ซึ่งได้นำดอกไม้มามอบให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ขอถ่ายรูป และตะโกนเชียร์ลุงตู่ สู้ๆ เพื่อเป็นกำลังใจ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างขึ้นรถแห่ ว่า ดีใจที่มาปัตตานี ตนมาตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบก ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี แต่จะได้เป็นต่อหรือไม่ก็อยู่ที่พวกเราทุกคน ถ้าเราไม่รักกันแล้วใครจะรัก บ้านเมืองแตกแยกไม่ ต้องทำให้บ้านเมืองสงบ
จากนั้นเวลา 18.20 น.น. พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นรถแห่หาเสียงไปยังรอบเทศบาลเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ซึ่งระหว่างทางมีประชาชนชาวจังหวัดปัตตานีให้การต้อนรับอย่างคึกคัก โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สบายดีทุกคนนะจ๊ะ ขอให้ขายดีๆ นะ พี่ตู่คนนี้ คนเดิมไม่เคยทอดทิ้งใคร บางอย่างต้องทำต่อให้ดีขึ้น รักทุกคนนะจ๊ะรักจังฮู้ ขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ ตนตั้งใจที่จะทำอีกเยอะ แต่ขอให้บ้านเมืองสงบ เราจะแตกแยกกันไม่ได้นี่คือประเทศไทยของเรา รักแล้ว รักอยู่ และรักต่อ ขอให้จำชื่อจำหน้า ผู้สมัคร ส.ส. พรรคฯในเขตของตัวเองให้ได้ และบัตรพรรคเบอร์ 22 ลุงตู่คนเดิม นอกจากนี้ คนใต้ รักใครรักจริง ถ้ารักจริงอย่าทิ้งตู่ ตนไม่ใช่คนใต้ แต่ตนรักคนใต้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า แม้ตนไม่ใช่คนใต้ ก็รักคนใต้ เราอยู่ร่วมกันอย่างพหุสังคม พหุวัฒนธรรมมีทั้งพุทธและมุสลิมประเทศไทยมี 5 ศาสนาอยู่กันด้วยสันติสุขจะทะเลาะกันไม่ได้ ถ้าเราไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วย อย่างไรก็ตาม ขอบคุณคนไทยเราต้องรักและสามัคคีกัน สู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนของเรา ต้องสู้ ต้องช่วยตน ตนสู้คนเดียวไม่ไหว วันนี้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปเยอะ และจะเจริญกว่านี้ตนขอสัญญา จะทำให้ดีกว่านี้ บ้านเมืองเป็นของเราต้องอยู่ ต้องอาศัยต้องช่วยกันรักษาให้เกิดความปลอดภัย ต้องอยู่กันแบบสันติวิธี และสันติสุข ตนรับรองว่าจะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างอยู่บนรถแห่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดทักทายชาวจังหวัดปัตตานีเป็นภาษายาวีทักทายชาว พร้อมกล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค.ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันด้วย และวันนี้ตสต้องขอโทษที่มาพบช้าไป เพราะตัองไปไหว้ศาลหลักเมืองก่อน มีเวลานิดหน่อยก็คุยปรับทุกข์กับพวกเราบ้าง
จากนั้นเวลา 18.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมายังวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ซึ่งมีประชาชนมารอฟังปราศรัย อย่างคึกคัก โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปราศรัยย่อยว่า วันนี้มาปัตตานีรู้สึกตื้นตันใจมาก พี่น้องเอาใจใส่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และตนเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ ทุกคนทราบดีใช่หรือไม่การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งชี้ชะตาประเทศ ที่มีความสำคัญประเทศเราต้องสงบสุข ทะเลาะกันไม่ได้ ถ้าทะเลาะกัน โอกาสจะหายไปที่เราจะเจรจากับต่างประเทศ ทั้งนี้ขอให้เลือกส.ส.เขตจังหวัดปัตตานีทั้ง 5 เขต เลข 5 ทั้งหมด ชนะแน่นอน
“เขาสอนว่าลูกไม่ต้องรักพ่อ รักแม่ก็ได้ แม่ทำให้เกิดอย่างเดียวพอแล้ว เวลาพูดเรื่องนี้มันมีอารมณ์ทุกที เขาไม่น่าทำเรื่องแบบนี้ พูดออกมาให้มันเสียหาย วันนี้ลุงตู่ก็เป็น พี่ตู่ก็เป็น แบก็เป็น (แบ เป็นภาษามาลายู (ยาวี) แปลว่า พี่ชาย) ขอให้รักกันอย่างนี้รักมากๆรักนานๆ รักจังฮู้ พร้อมกับพูดภาษามาลายู (ยาวี) ว่า “ซายอ กาแซะ แดมอ” ซึ่งแปลว่า รักที่สุดด้วย และอย่าลืมวันที่ 14 พ.ค.ไปเลือกตั้ง ขอให้จำเบอร์เขตให้ดี สำหรับผมเบอร์ 22” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เวลาปราศรัยในจุดดังกล่าวไม่นาน เนื่องจากต้องรีบเดินทางไปขึ้นเครื่องเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 9 พ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันที่ 11 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่หาเสียง และขึ้นเวทีปราศรัย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนที่วันที่ 12 พ.ค. พรรค รทสช.จัดเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้าย ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ และในวันที่ 13 พ.ค. ก่อนเข้าสู่ช่วงเวลางดหาเสียงในเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำพรรค รทสช. เตรียมขึ้นรถแห่หาเสียงรอบกรุงเทพฯด้วยในช่วงเช้า