นายกรัฐมนตรีกำชับกระทรวงศึกษาฯ และสาธารณสุข ร่วมกันวางแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด19 ในโรงเรียนช่วงเปิดเทอมเนื่องจากตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นมามีการพบจำนวนผู้ป่วยโควิด19 เพิ่มขึ้น ประกอบกับระยะนี้กำลังใกล้เข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเอื้อต่อการแพร่ระบาดของไวรัส
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงที่โรงเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศทยอยเปิดภาคเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อสุขภาพของเด็กและเยาวชน จึงได้กำชับให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันวางแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19 รวมถึงโรคทางเดินหายใจอื่นๆ เช่นโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นมามีการพบจำนวนผู้ป่วยโควิด19 เพิ่มขึ้น ประกอบกับระยะนี้กำลังใกล้เข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเอื้อต่อการแพร่ระบาดของไวรัส
ประกอบกับปัจจุบันได้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค และประชาชนกลับมาชีวิตใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติมาก นายกรัฐมนตรีจึงเห็นว่าควรมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนให้กับสถานศึกษา อาทิ ขั้นตอนการคัดกรองก่อนเข้าเรียนหรือร่วมกิจกรรมต่างๆ การคัดแยกเด็กที่ป่วย การดูแลสิ่งแวดล้อม สถานที่ อุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอน ของเล่นและเครื่องเล่นต่างๆ การจัดจุดบริการล้างมือด้วยน้ำ สบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น
“ตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นมา ได้พบว่าในไทยได้มีผู้ป่วยโควิด19 เพิ่มขึ้น ดังนั้นควบคู่กับการรณรงค์ให้พ่อแม่ ผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีนตามรอบ ท่านนายกฯ ได้กำชับให้กระทรวงศึกษาฯ และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันมีคำแนะนำข้อปฏิบัติแก่สถานศึกษาทั่วประเทศให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อการดูแลสถานการณ์ที่มีประสิทธิภาพ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว