วันนี้(7 พ.ค.)ณ บริเวณลานหน้าตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 6 จังหวัดพะเยา พปชร.และในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร. และนายไพรัตน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพร้อมทีมงานผู้ช่วยหาเสียง ได้มาร่วมกันพบปะประชาชนและปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนุรัตน์ ตันบรรจง (ออม)ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 6 พปชร.จังหวัดพะเยา ซึ่งมีประชาชนจากหลายตำบลของอำเภอเชียงคำ อาทิ ตำบลหย่วน เวียง ฝายกวาง เชียงบาน แม่ลาวและอ่างทอง เป็นต้น มาให้กำลังใจและร่วมรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ได้กล่าวทักทายและขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และรับฟังปราศรัยนโนบายของพรรคฯ ที่ยึดหลักสำคัญคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ เศรษฐกิจดี สังคมดี ขอให้มั่นใจว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ ทุกท่านจะไม่ผิดหวัง เพราะน้องออม หรือ อนุรัตน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 6 ของพรรคฯ เป็นคนรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าทำงาน เพื่อรับใช้ทุกท่าน จึงหวังว่า วันที่ 14 พฤษภาคม นี้ ขอให้เข้าคูหากาเบอร์ 6 ยกจังหวัด และกาเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเราพร้อมร่วมมือกันทำงานกันเต็มที่ เพื่อพัฒนา สร้างบ้านแปงเมืองพะเยาของเราให้เจริญก้าวหน้า มีสังคมความเป็นอยู่ดี เศรษฐกิจดีตลอดไป
“เรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นความเดือดร้อนอย่างมากของพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ซึ่งทางพรรคฯ จะช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าว ทั้งจะลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันที ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยลดราคาน้ำมันดีเซล 6.30 บาทต่อลิตร เบนซิน 18 บาทต่อลิตร รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย เท่านั้นยังไม่พอเราจะแก้ปัญหาที่ดินทำกิน เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ใครที่มีเอกสาร คทช.ก็จะเปลี่ยนเป็น สปก.4-01 ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอยู่แล้วก็จะเพิ่มเป็น 700 บาท และผู้ถือบัตรยังมีประกันชีวิตอีก 200,000 บาท อีกด้วย”
นอกจากนี้ สำหรับผู้สูงอายุ ทางพรรคฯยังจะจัดให้มีเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน และที่ขาดไม่ได้คือการช่วยเหลือเกษตรกร คือเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกรครัวเรือนละ 30,000 บาท ปุ๋ยคนละครึ่ง คือรัฐช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนาไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นต้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายอนุรัตน์ ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่า “ผมมาขอโอกาส เข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้คนพะเยา ผมพร้อมจะสู้เคียงข้างพ่อแม่พี่น้องคนพะเยาทุกคน ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นจะทำงานให้ทุกท่านเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าที่ผ่านมา หมดเวลากับนักการเมืองที่ใช้กระแสเข้ามา ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ สิทธ์และเสียงอยู่ในมือของทุกท่าน โปรดเลือก เบอร์ 6 อนุรัตน์ ตันบรรจง ด้วยครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการปราศรัยก่อนเวลา18.00น. ร้อยเอกธรรมนัส พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ ได้พร้อมใจกันลุกขึ้นยืนและไหว้ขอบคุณประชาชนที่ยังรอให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น แม้สภาพอากาศเริ่มมืดค่ำลง
