สื่อสังคมโซเชียล รุมประณาม “ทิม-พิธา” เข้าด้วยกับ “ชูวิทย์” นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยมีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่าง เป็นจำนวนมาก อาทิ เพจ Ganja TV มีผู้แสดงความคิดเห็น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Jiranuwat Paosakulw” แสดงความคิดว่า “รู้สึกว่าจะเอากลับไปขึ้นบัญชียาเสพติดด้วยครับ”
จากกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปลี่ยนแปลงท่าทีใหม่ ร่วมกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่อ้างตัวเป็นผู้คัดค้านกัญชาทั้งที่คนในครอบครัวเปิดร้านขายกัญชา โดยระบุว่า จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรี และต้องเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ส่งผลให้ในสื่อสังคมโซเชียล ที่ให้องค์ความรู้เกี่ยวกับกัญชา ออกมาแสดงความคิดเห็นต่าง เป็นจำนวนมาก อาทิ
เพจ Ganja TV มีผู้แสดงความคิดเห็น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Jiranuwat Paosakulw” แสดงความคิดว่า “รู้สึกว่าจะเอากลับไปขึ้นบัญชียาเสพติดด้วยครับ”
ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Det Canabois” ออกมาแสดงความคิดเห็นในโพสต์นี้ ว่า “เป็นเกมการเมืองมากกว่าครับ ที่ชูวิทย์ ออกมาต่อต้านกัญชา สำหรับผมคิดว่า เป็นการทำลายนักลงทุนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในวงการกัญชาเกิดความกลัวที่จะไม่กล้าลงทุน”
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ช่างต้น สักลาย เมืองช้าง” แสดงความคิดเห็นว่า “เหล้าบุหรี่มีแต่โทษ เมาขับรถชนคนตายไปเท่าไหร่ สูญคนรักครอบครัวมาเท่าไหร่” และ “ยุรนันท์ ปั้นทอง” ระบุว่า “เค้าคงลืมชาวบ้านตาดำๆ ที่ปลูกไว้ทำยารักษาตัวเองโดยบริสุทธิ์ใจ เมื่อก่อนก็ออกมาช่วยรณรงค์ให้ปลดกัญชา ตอนนี้มีแฟนคลับเยอะทำเป็นลืมคนป่วย” ส่วน “R-pong Bsr” บอกว่า “ไม่เอากัญชาแต่สนับสนุนเหล้าเสรี ทั้งๆ ที่เห็นชัดว่า อันไหนมีโทษมากกว่ากัน”
ด้านเพจ “เขียนอนาคตกัญชาไทย” มีคอมเมนต์ว่า พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อไหร่คุณจะพูดเรื่องกัญชาให้ตรงกันเสียที พรรคก้าวไกล ยื่นฟ้องศาลให้กัญชากลับไปสู่ยาเสพติด ขอย้ำว่า มันคือการฟ้องศาล พรรคก้าวไกลไม่ได้ทำแบบพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ หรือ ประชาชาติ ที่แสดงความเห็นกัญชาในเชิงนโยบายของพรรค แต่พรรคก้าวไกล เชื่อมั่นยิ่งกว่า ว่า กัญชาต้องเป็นยาเสพติด นั่นคือ การดำเนินการมากกว่าพรรคอื่น คือ ดำเนินการฟ้องศาลให้เป็นยาเสพติด นี่คือ จุดยืนของพรรคก้าวไกล โดยมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของพรรคก้าวไกล
อาทิเช่น “Jukkrit Junet” ระบุว่า “แค่อยากให้กัญชามันเท่าเทียม เพราะสุราก็มีผลต่อประสาท ทำให้ก่อเกิดโรค และเสพติดได้ อีกทั้งเป็นปัจจัยของการทะเลาะวิวาทและอาชญากรรม แต่คนส่วนใหญ่ใช้มัน อะไรที่มันผิดเลยถูกต้องได้ ปล. ผมก็คนกินเบียร์”
ส่วนเพจ “กัญชาชน” ได้โพสต์ว่า ในวันที่กัญชายังเป็นยาเสพติด ข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษ คือ สิ่งที่คนตัวเล็กๆ ต้องเจอเมื่อปลูกกัญชาแม้เพียงต้นเดียว ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท ยังจำได้ว่าในวันนั้นสังคมเราเข้าใจ และเห็นใจกันว่า การลงโทษแบบนี้นั้นไม่สมเหตุสมผล และเป็นการทำร้ายประชาชนตัวเล็กๆ โดยที่สังคมก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร การลงโทษ การปิดกั้นและเอาเรื่องนี้กลับไปอยู่ใต้ดิน ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องเช่นกัน โดยมีผู้แสดงความคิดเห็น จำนวนมาก
“Peamyouth Noima” ได้แสดงความเห็นว่า ถ้าเกิดแลนสไลด์ กัญชาโดนแน่นอน คนไม่ชอบ ยังไงก็ไม่ชอบ มันไม่ผิดกฎหมายแล้วก็ยังไม่ชอบ
ขณะที่เพจ “ลุงตุ้มกัญชาชุมพร” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “มึ..จะเดินได้สักกี่ก้าว… ถ้ามึงไม่รู้จักพระ รู้จักเจ้า…กูว่ามึงก้าวได้ไม่ไกล” โดยมีผู้เข้ามาโพสต์มาแสดงความคิดเห็น อาทิ “ชาญณรงค์ นวลเกื้อ” ได้ แสดงความคิดเห็นว่า “คนเนรคุณแผ่นดิน ย่อมไม่มีแผ่นดินจะอยู่ครับลุงตุ้ม ผมว่าถ้าได้ก้าวไม่ไกล มาเป็น นายกฯ ประเทศสยาม ผมว่าสะเทือนแน่”