วันนี้ (6 พ.ค.) นายมณฑล โพธิ์คาย ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตประเวศ-สวนหลวง เบอร์ 2 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน และปราศรัยย่อย กับพี่น้องชุมชนคลองจวน เขตสวนหลวง กทม. ว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ที่ตนได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทนของชาวประเวศ-สวนหลวง ตนไม่เคยทอดทิ้งพี่น้อง แต่ได้ดูแลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องต่างๆ อยู่ตลอด โดยเฉพาะพื้นที่เขตประเวศ-สวนหลวง มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เรามีความใกล้ชิดพบปะกันอยู่เสมอ ทำให้ตนเข้าใจในวิถีชีวิต พยายามช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางศาสนา และสิ่งต่างๆ ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องในพื้นที่ด้วยดีตลอดมา
“กิจกรรมด้านศาสนาที่ผมทำมาตลอด 4 ปี คือ ดำเนินโครงการอุมเราะห์เพื่อชุมชน สนับสนุนทุนให้มุสลิมที่อุทิศทำงานเพื่อพระเจ้าแต่มีฐานะยากจน ได้มีโอกาสไปปฏิบัติศาสนกิจทำอุมเราะห์ที่ซาอุดิอาระเบีย 6 ทุน รวมถึงเราทำโครงการบ้านหลังสุดท้าย บริจาคเงินให้มัสยิดจัดหาโลงศพให้คนยากจนที่เสียชีวิต การพัฒนาศาสนสถานมัสยิดต่างๆ รวมถึงร่วมงานมายัต หรือว่าพิธีทางศพ โดยช่วยดูแลอยู่ตลอด” นายมณฑล กล่าว
นายมณฑล กล่าวว่า วันนี้รู้สึกมีกำลังใจที่ทราบว่าตนได้ใจ ได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่กว่า 70% ซึ่งตนอยากวิงวอนให้ช่วยสนับสนุนมากกว่านี้ เพราะต้องการดูแลพี่น้องทุกคนต่อทั้งงานในชุมชน และงานในสภาฯ พรรคภูมิใจไทยมีอีกหลายนโยบาย ที่อยากดูแลประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 บาท มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด เป็นต้น
“พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศทุกมิติ เรามีนโยบายต่อพี่น้องชาวไทยมุสลิม ซึ่งจะมีการจัดตั้งองค์กรส่งเสริมกิจการพิธีฮัจญ์ เป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่าย และการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมกิจการซะกาต เพื่อให้สามารถบริหารจัดการเงินบริจาคได้ตามหลักศาสนา นอกจากนั้น พรรคภูมิใจไทยยังมีอีกหลายนโยบายเพื่อพี่น้องชาวไทยมุสลิม หากได้เป็นรัฐบาลจะเดินหน้าทุกนโยบายแน่นอน เพราะเราพูดแล้วทำ” นายมณฑล กล่าว
ด้าน อิหม่ามดาวุฒิ โตสมบูรณ์ อิหม่ามมัสยิดเราะห์มาตุ้ลอิสลาม กล่าวว่า เขตประเวศ-สวนหลวง ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี ส.ส.ที่เป็นมุสลิมมาก่อน ตนคงไม่ต้องเอ่ยว่าคนนั้นเป็นใคร เราไม่เคยได้รับอะไรที่เกี่ยวข้องกับคำว่าอิสลามเลย แต่นายมณฑลถึงแม้ไม่ได้เป็นอิสลาม แต่มีความพยายามลงพื้นที่มาพูดคุยจนเกิดความใกล้ชิด มีความเข้าใจในวิถีชีวิต และคอยดูแลพี่น้องในพื้นที่เสมอมา
