“เท่าพิภพ” แชร์โพสต์ “ประสิทธิ์ชัย หนูนวล” ถามจุดยืน “พิธา” หลังจะดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แกนนำเครือข่าย ปชช. ย้อน หน.ก้าวไกล ทุกครั้งที่คุณสูบกัญชา คุณจะสำนึกถึงข้อเท็จจริงของมัน ว่า มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ “ชูวิทย์” ปั่น
วันนี้ (5 พ.ค.) หลังจากที่ปรากฏข่าว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศว่า จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด กับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีนโยบายกัญชา เพื่อการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ ของพรรคภูมิใจไทย อย่างต่อเนื่องนั้น ปรากฏว่า ในโลกโซเชียล ได้มีการเผยแพร่ภาพไลน์ของ “เท่าพิภพ Taopiphop” เขียนข้อความในช่วง 12.35 น. ว่า เมื่อไหร่คุณจะพูดเรื่องกัญชาให้ตรงกันเสียที คนที่เป็นนักการเมือง .....ซึ่งจากการตรวจสอบ เป็นไลน์ของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นั่นเอง
หลังจากที่มีการนำโพสต์ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล อดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง พ.ศ. ... “แกนนำเครือข่ายเพื่อประชาชน” ที่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนกฎหมายกัญชากัญชง ไปแชร์ในกลุ่มไลน์ต่างๆ ที่สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ โดยมีหัวข้อ “คำถามถึง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่ผู้นำที่คนรุ่นใหม่สนับสนุน” 1. จุดยืนของคุณเรื่องกัญชาเปลี่ยนไปตามกระแสและผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ ตลอดระยะเวลาพวกคุณไม่เคยพูดถึงกัญชาในแง่ไม่ดีเลย จนกระทั่ง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร พวกคุณจึงเริ่มมีท่าทีเกี่ยวกับกัญชาเปลี่ยนไป คิดเอาคืนทางการเมืองกับพรรค ซึ่งคาดหวังว่าจะยกมือสนับสนุน พ.ร.บ.สุราฯ แต่แล้วพรรคนั้นไม่ยกมือให้ในนาทีสุดท้ายใช่หรือไม่
2. คำถามที่สำคัญคือ มีเหตุผลอะไรที่พรรคก้าวไกลจะเอากัญชากลับไปสู่ยาเสพติด ประเด็นนี้ต้องพูดกันด้วยข้อเท็จจริง พรรคต้องแสดงข้อเท็จจริงและงานวิจัยที่มีเพื่อเปรียบเทียบโทษระหว่างกัญชากับสุราให้ชัดเจน ย้ำว่า ต้องเป็นงานวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ข้อมูลจากความรู้สึก สุราทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างไร ทำลายสุขภาพอะไรบ้าง ประจักษ์กันมานานแล้วมิใช่หรือ ส่วนกัญชานั้นมีงานวิจัยสนับสนุนทั่วโลกนับ 100 สถาบัน ซึ่งพูดถึงกัญชาในฐานะยารักษา
3. มันตลกกับตรรกะที่บอกว่า “เอากลับไปเป็นยาเสพติดก่อนแล้วค่อยเปิดให้ประชาชนเข้าถึง” มันเหมือนการอธิบายว่า ปลูกมะเขือแล้วจะได้กินฟักทอง เมื่อกัญชาไปเป็นยาเสพติดแล้ว กติกาที่ประชาชนจะใช้ได้นั้นแคบมาก กลายเป็นว่าคนส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ทำกัญชาได้ ส่วนประชาชนจะเป็นเพียงผู้บริโภค ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึง ธุรกิจเบียร์ ที่พรรคก้าวไกลต่อสู้อยู่ พวกคุณเจ็บปวดเรื่องเบียร์แต่เหยียบกัญชา มันเพราะอะไร
“ตอนที่พรรคเปลี่ยนจุดยืนเรื่องกัญชา จาก พ.ร.บ.ประชาชนที่ต้องการให้คนเข้าถึงกัญชาได้ ภายใต้การควบคุมโดยกฎหมายระดับ พระราชบัญญัติ ไปเป็นการนำกัญชากลับไปสู่ยาเสพติด พรรคไม่ได้หารือกับขบวนการประชาชนเลย นั่นเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่า พรรคไม่ได้สนใจเสียงของประชาชน หากพรรคคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว การอธิบายกับภาคประชาชนเกิดขึ้นตอนหลังจากที่พรรคไปฟ้องศาลให้กัญชากลับสู่ยาเสพติดแล้ว มันคือการชี้แจงให้ภาคประชาชนยอมรับกับแนวทางใหม่ของพรรค ซึ่งตรงข้ามกับแนวทางเดิมอย่างสิ้นเชิง”
บทความของ นายประสิทธิชัย ระบุต่อไปว่า กัญชาเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ปีที่แล้ว โดยมันถูกขังคุกจากการผลักดันของกลุ่มอิทธิพลในสหรัฐอเมริกามากว่า 40 ปี แล้วหน่วยงานรัฐไทยก็ช่วยกันเอากัญชาออกมาให้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนโดยบอกว่า แม้ว่าจะอยู่ร่วมกับผู้คนก็ต้องมีกฎหมายควบคุมโดยใช้กฎหมายระดับ พ.ร.บ. เพื่อให้กัญชาใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ นี่คือแนวทางของการเคารพสิทธิ พรรคก้าวไกล กลับมีจุดยืนว่า แม้มันออกจากคุกมาแล้ว ก็ต้องเอาไปขังคุกต่อ เมื่อมันอยู่ในคุกแล้ว เราค่อยมาพูดถึงสิทธิของประชาชนในการใช้กัญชา “แบบนี้ คือ วิธีคิดของนักประชาธิปไตยเหรอครับ หัวใจของความผิดพลาดของพรรคก้าวไกลเรื่องกัญชาคือ ไม่ได้ตัดสินจากข้อเท็จจริงแต่ตัดสินจากภาวะทางการเมือง
นายประสิทธิชัย สรุปบทความตอนท้าย ฝากไว้ให้คิดครับ พิธา หวังว่า ทุกครั้งที่คุณสูบกัญชา คุณจะสำนึกถึงข้อเท็จจริงของมัน ว่ามันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ชูวิทย์ปั่น แล้วคุณก็รับลูกกันอย่างดี พรรคคุณกับคนแบบชูวิทย์หลังๆ นี้ แนบแน่นกันหลายเรื่องนะครับ แน่ใจแล้วใช่ไหมครับที่ทำแบบนี้ พรรคก้าวไกลแน่ใจแล้วใช่ไหมครับที่จะแนบแน่นกับชูวิทย์ อีกไม่กี่วันกระแสการเลือกตั้งจะจบ โลกของความจริงจะเข้ามาเยือนแทนกระแสแล้วนะครับ แน่ใจแล้วใช่ไหมครับว่าจะเอาแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเท่าพิภพ เคยเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ในนามตัวแทนของพรรคก้าวไกลร่วมกับนายประสิทธิ์ชัยด้วย