ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง การแข่งขันของทุกพรรคการเมืองก็เริ่มเข้มข้นขึ้น ล่าสุด นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี หมายเลข 21 ยอมรับว่า มีการซื้อสิทธิขายเสียงกันอย่างมโหฬารในหลายพื้นที่ มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท โดยนายถาวร ได้แสดงเอกสารยืนยันว่า พบหลักฐานการทุจริตเลือกตั้งใน จ.สงขลา ซึ่งเอกสารดังกล่าว เป็นของ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.สงขลา ที่มีไปถึง นพ.สาธารณสุข จ.สงขลา ลงวันที่ 21 เมษายน 2566 ระบุอย่างชัดเจนว่า อสม.จ.สงขลา กระทำการซื้อเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จ.สงขลา ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งจริงในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566
นายถาวร เชื่อมั่นว่า เอกสารทางราชการฉบับนี้เชื่อถือได้ เพราะเป็นหนังสือราชการ ที่กล่าวอ้างถึง อสม.ได้ทุจริตซื้อเสียงให้กับ ผู้สมัคร ส.ส. ไม่ได้เป็นการกุข่าวขึ้นแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีข้อความระบุด้วยว่า กกต.สงขลา รับทราบเรื่องแล้ว ดังนั้น กกต. ซึ่งมีหน้าที่โดยตรง ก็ควรดำเนินการกับคดีทุจริตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยไม่มีการละเว้น
“จะอ้างว่า ท่านไม่มีกำลังอยู่ในมือไม่ได้ ท่านมีอำนาจเหนือรัฐบาล เหนือตำรวจ เหนือทหาร เหนือฝ่ายปกครอง ดังนั้น ท่านสามารถเรียกบุคคลเหล่านั้นมาช่วยราชการได้ มาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของท่านได้ อย่าปล่อยให้นักการเมืองชั่วๆ ลอยนวล ดังนั้น การปฎิบัติหน้าที่ของ กกต.จังหวัด เมื่อรู้ว่ากระทำความผิดจะต้องดำเนินการทันที เพื่อระงับยับยั้งการกระทำ ผิด กฏหมาย ท่านมีอำนาจบังคับใช้ ท่านมีหน้าที่โดยตรงท่านจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนหาคนผิด จับกุมดำเนินคดี แต่ถ้าท่านรู้แล้ว และไม่ปฏิบัติ ผมถือว่าท่านละเว้นครับ...” นายถาวร กล่าวย้ำ
นายถาวร กล่าวด้วยว่า ปัญหาการทุจริตขณะนี้ เป็นปัญหาของประเทศ และของทุกพรรค หากละเว้น เพิกเฉย จะนำไปสู่ การทุจริตคอรัปชั่น หลังจากนั้นพี่น้องประชาชนจะไม่พึงพอใจในอนาคต และอาจนำไปสู่การรัฐประหารเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด หากเราไม่จัดการกับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน