คอหวยเตรียมเฮ! ชาติพัฒนากล้าออกนโยบาย "เศรษฐีเงินล้าน" 231 คนต่องวด ให้รางวัลคนซื้อสลากเลขใกล้เคียงรางวัลที่ 1 คนละ 1 ล้านจังหวัดละ 3 คนทั่วประเทศ ลั่นรื้อระบบกองสลากนำกำไรส่วนเกินส่งคืนให้ประชาชน
วันนี้ (2 พฤษภาคม) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้อัดคลิปลงติ๊กตอก ให้คอหวยได้เฮ ถึงแนวคิดการเพิ่มเศรษฐีเงินล้าน 231 คนต่องวด โดยระบุว่า หน่วยงานของรัฐที่สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนมากที่สุดคือ กองสลาก ขณะเดียวกันก็เป็นหน่วยงานที่ประชาชน 22 ล้านคน พร้อมที่จะฝากความหวังไว้เช่นเดียวกัน ในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา รายได้ของกองสลากเพิ่มขึ้นมหาศาล จากที่ 8 ปีก่อนหน้านี้ กองสลากขายล็อตเตอรี่เพียงปีละ 37 ล้านใบ แต่วันนี้ขาย 100 ล้านใบ ทำให้รายได้ของกองสลากเพิ่มขึ้นจากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นเกือบ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในขณะที่การแบ่งสัดส่วนรางวัล ยังอยู่เท่าเดิม ถึงเวลาที่กองสลากจะแบ่งปันรายได้กลับคืนให้กับประชาชน ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า รางวัลที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายล็อตเตอรี่ผ่านแอ็ปเป๋าตังมากขึ้น ทำให้รัฐประหยัดการจ่ายค่าการตลาดให้กับพ่อค้าคนกลาง วิธีการของพรรคชาติพัฒนากล้าคือ ในทุกงวดเราจะจัดรางวัลให้ทุกจังหวัด ๆ ละ 3 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาทให้กับผู้ซื้อล็อตเตอรี่ ซึ่งผู้ซื้อล็อตเตอรี่ที่จะได้รางวัลคือ ผู้ที่เบอร์ 6 ตัว ใกล้กับรางวัลที่ 1 มากที่สุดในจังหวัดนั้น ๆ และการที่เราจะรู้ว่าล็อตเตอรี่ของคเราเข้าข่ายอยู่ในจังหวัดไหน ก็ต้องซื้อผ่านแอปเป๋าตัง เพราะในแอป จะมีข้อมูลอัตโนมัติจากข้อมูลบัตรประชาชนที่เราลงทะเบียนไว้
“การซื้อล็อตเตอรี่ผ่านแอปเป๋าตังข้อดีคือ ซื้อในราคา 80 บาท ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่าคุณเป็นจังหวัดไหน เมื่อจับรางวัลแต่ละงวด เราสามารถตรวจเช็คอัตโนมัติเลยว่าเบอร์ของคุณเป็นเบอร์ในจังหวัดของคุณที่ใกล้รางวัลที่ 1 มากที่สุดหรือไม่ เพียงเท่านั้นก็จะทำให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ทันที เราจะทำอย่างนี้ทุกงวด ๆ ละ 231 คน เดือนนึง 462 คน ทั้งปี 5,544 คน เพียงเพราะเรามีการจัดแบ่งรายได้ของกองสลาก คืนเป็นรางวัลเพิ่มเติมให้กับพี่น้องประชาชน ในสัดส่วนที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น” นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่าประชาชนอาจมีคำถาม ว่าทุกจังหวัดมี 3 รางวัล ไม่ว่าจะจังหวัดเล็กประชากรน้อย หรือจังหวัดที่มีประชากรเยอะใช่หรือไม่ คำตอบคือใช่ โดยเฉพาะจังหวัดเล็กโอกาสจะมีมากกว่า ส่วนที่ว่า ข้อเสนอของพรรคชาติพัฒนากล้าเป็นการมอมเมาหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะเราไม่ได้เพิ่มจำนวนล็อตเตอรี่ ปัจจุบันที่ขายอยู่ 100 ล้านใบ ก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่เราจะแบ่งปันรางวัลให้กับผู้ซื้อล็อตเตอรี่มากขึ้น และขอยืนยันว่า แนวความคิดนี้ ไม่ได้เป็นความคิดเชิงประชานิยม เพราะเราสามารถจัดสรรรางวัลให้กับประชาชนได้ ด้วยการดึงล็อตเตอรี่เข้าสู่ระบบแอปเป๋าตัง และลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าการตลาดที่กองสลากต้องจ่ายให้กับพ่อค้าคนกลาง
นอกจากนี้พรรคชาติพัฒนากล้ายังมีอีก 3 เรื่องที่พรรคจะรื้อระบบกองสลาก เพื่อแก้ไขความเป็นธรรมให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น คือ 1. เมื่อมีการซื้อล็อตเตอรี่ผ่านแอปเป๋าตังมากขึ้น ค่าการตลาด 9 บาทต่อใบ ที่วันนี้ยังต้องจ่ายให้กับยี่ปั๊ว ควรจะเอาคืนมาจัดสรรเป็นเงินรางวัลให้กับผู้ซื้อล็อตเตอรี่แทน 2. เราต้องแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้รายได้ของกองสลากนั้นสามารถจะจัดสรรยิงตรงช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนยากคนจน แทนที่จะส่งเงินเข้าคลัง ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษา ทุนการสร้างอาชีพ และ 3. สำหรับผู้ค้าสลากที่ได้รับผลกระทบจากการที่ประชาชนซื้อล็อตเตอรี่ใน แอปเป๋าตัง มากยิ่งขึ้น เราต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อเยียวยาฝึกอาชีพให้กับเขา มีเงินเดือนให้ ในช่วงที่ผู้ค้าล็อตเตอรี่ต้องปรับตัว