วันนี้(3 พ.ค.)องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เปิดเวที Talk นโยบายสัตว์ๆ กับ 6 พรรคการเมืองไทย โดยนายนิติพล ผิวเหมาะ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในเวทีว่า มักมีคำถามเสมอว่า ขนาดงบประมาณดูแลคนยังไม่พอ แล้วจะเงินมาจากไหนมาดูแลสัตว์ เรายืนยันว่า หากมีการปรับงบประมาณกองทัพ ไม่ว่าด้วยการปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ลดจำนวนนายพล เอาธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับกองทัพไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สนามม้า สนามมวย กลับคืนมาเป็นงบประมาณประชาชน ก็จะทำให้มีงบประมาณรวมๆกันราว 50,000 ล้านบาทต่อปี เงินก้อนนี้จึงหมายถึงการมีงบประมาณที่เพิ่มขึ้นในการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ด้วย เป็นเรื่องที่ก้าวไกลให้ความสำคัญมาตั้งแต่สมัยพรรคอาคตใหม่ และถูกบรรจุเป็นหนึ่งใน 300 นโยบาย สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้
นายนิติพล กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ก้าวไกลจะทำแบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ เรื่องหมาแมวจรจัด ไม่ว่าไปที่ไหนก็เจอปัญหานี้ แต่พอถามว่ามีใครรู้หรือไม่ว่าปัจจุบันเรามีประชากรหมาแมวจรกี่ตัว กลับไม่มีหน่วยงานไหนตอบได้ ดังนั้น เราต้องทำบัตรประชาชนหมาแมวเพื่อให้รู้จำนวนประชากรให้บริหารจัดการได้ จากนั้นสิ่งที่ต้องทำตามมาคือการเพิ่มงบให้ท้องถิ่นเพื่อจัดหาวัคซีนและทำหมันหมาแมวจร อีกส่วนหนึ่งคือจะต้องมีสถานพักพิงที่มีคุณภาพให้พวกเขาเพื่อรอส่งต่อให้ผู้รับเลี้ยงสัตว์ โดยผู้ประสงค์รับเลี้ยงสัตว์จะได้รับประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงไปด้วยเพื่อให้ไม่รู้สึกว่าสัตว์จะเป็นภาระสำหรับเขามากเกินไป
อีกประเด็นคือ ปัญหาช้างป่าภาคตะวันออกซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ กุญแจดอกแรกที่ต้องทำคืองบเยียวยาและชดเชยที่เป็นธรรมและทันที ไม่ใช่พังต้นทุเรียน 2 ต้นแล้วไม่ให้ค่าชดเชยหรือให้แค่ต้นกล้าทุเรียนมาแทน ถัดไปคือต้องเพิ่มศักยภาพให้ทีมอาสาดูแลช้างป่าในพื้นที่ ทุกวันนี้ยังเป็นรถมือเดียว มือหนึ่งถือประตู อีกมือถือพวงมาลัย สภาพแย่มาก ไม่ทันต่อปัญหา อีกประเด็นหนึ่งคือการสร้างอาหารเพื่อล่อช้างกลับเข้าป่า และสุดท้ายคือการสนับสนุนให้รัฐและเอกชนมาช่วยกันออกแบบวิธีการหาเงินเข้าพื้นที่
“สำหรับประเด็น พ.ร.บ.ช้าง ถามว่าพรรคก้าวไกลเอาด้วยหรือไม่ต้องบอกว่า เราสนับสนุนและสนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ตอนนั้น คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยไปกินนอนกับพี่น้องคนเลี้ยงช้างที่สุรินทร์ เช่นเดียวกับ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไปกินนอนกับพี่น้องคนเลี้ยงช้างที่เชียงใหม่ สิ่งที่เสียดายคือกฎหมายจะผ่านสภาง่ายที่สุด หากกฎหมายนั้นส่งมาจากฝั่งรัฐบาล แต่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กฎหมายไม่เข้าสู่สภาสะท้อนว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยสนใจปัญหาสวัสดิภาพของสัตว์เลย ทั้งที่ความจริงเรื่องของสัตว์ก็คือเรื่องของคน เกี่ยวพันกับทั้งเรื่องเศรษฐกิจ อาหาร การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน”
ทั้งนี้ นายนิติพล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลสนับสนุนข้อเสนอให้มีกองทุนเพื่อดูแลช้าง แต่กองทุนนี้ต้องถึงคนเลี้ยงช้างจริงๆ เพราะที่ผ่านมากองทุนมีเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าไปถามคนเลี้ยงช้างที่สุรินทร์ เชียงใหม่ สมุย ภูเก็ต จะรู้ว่าเขาแทบไม่เคยได้รับประโยชน์จากกองทุนเหล่านี้เลย เมื่อกองทุนไปไม่ถึงเขาต้องไปดิ้นรน สุดท้ายที่ลำบากไปด้วยก็คือช้าง
นอกจากนี้ นายนิติพล ยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับกรณีการจัดให้มีการชนวัว ชนไก่ กัดปลาเสรีและเป็นซอร์ฟพาวเวอร์โดยรัฐบาลว่า เป็นอีกเรื่องที่ต้องมีวิสัยทัศน์ในการจัดการ เพราะแม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีมานาน อาจจะมีการอธิบายสนับสนุนด้วยเรื่องสังคมวัฒนธรรมก็ว่ากันไป แต่ที่น่ากังวลคือมีเรื่องการพนันมาเกี่ยวข้องและปัจจุบันขยายไปทำได้ง่ายในทางออนไลน์ ซึ่งด้วยโลกปัจจุบันเปลี่ยนไปมากจากเทคโนโลยี ทำให้อีกซีกโลกหนึ่งเขาสามารถมองเห็นกิจกรรมที่เราทำได้ง่ายๆ แต่ประเด็นสวัสดิภาพและการทารุณกรรมสัตว์เป็นประเด็นสากล เมื่อก่อนเขาอาจจะไม่เห็น แต่เดี๋ยวนี้เขาเห็นแน่นอน นั่นจึงเป็นสิ่งที่จะต้องมองหาทางออกร่วมกันกับพ่อแม่พี่น้องที่ยังชอบในกิจกรรมเหล่านี้ คือให้เขาก็อยู่ได้ ขณะเดียวกันโลกก็ไม่แบนเรา จะต้องมีการคุยกันเพื่อหาคำตอบสำหรับประเทศไทยว่าเราจะทำอะไรต่อไปสำหรับเรื่องนี้