“วิรัช-ธรรมนัส” ลุย “สระบุรี” ขอโอกาสผู้สมัครทั้ง 3 คน ได้ดูแล ปชช.ชูนโยบาย เพิ่มสิทธิบัตรประชารัฐให้คนไทยครอบคลุมทั่วประเทศ

วันนี้ (2 พ.ค.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนวัดขอนชะโงก อ.หนองแค จังหวัดสระบุรี นำโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสระบุรี ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 2 นายกฤษดา อินทร์พาเพียร เบอร์ 3, เขต 3 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ เบอร์ 1, เขต 4 นายองอาจ วงษ์ประยูร เบอร์ 1

โดย นายวิรัช กล่าวปราศรัยว่า ดร.ผึ้ง ผู้สมัครของเราเป็นผู้หญิงใจสู้ มีความตั้งใจที่จะมาเป็นผู้แทนของชาวสระบุรี ถ้าวันนี้พี่น้องประชาชนเห็นว่าผู้แทนของเราคนเก่าไม่ได้มาทำอะไรให้กับพวกเรา วันนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยน ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงที่เป็นนักสู้แบบนี้ยังมีเหลืออยู่ แต่บังเอิญว่ามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ผู้สมัครมีศักยภาพ นโยบายพรรคก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตนเชื่อว่า ทุกคนอยากจะได้บัตรประชารัฐเดือนละ 700 บาท รวมถึงเงินประกันชีวิตอีกรายละ 200,000 บาท

“นโยบายของพรรคพลังประชารัฐมุ่งเน้นไปที่การช่วยให้พี่น้องประชาชนผลจากความยากจนรวมถึงต้องการแบ่งเบาภาระ ค่าของชีพในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำทันที่พลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย นโยบายดีอย่างนี้จะไม่เลือกได้หรือ ดังนั้น 14 พ.ค.นี้ขอให้ชาวสระบุรีเขต 3 กาเบอร์ 1 และเบอร์ 37 พรรคพลังประชารัฐ”

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยว่า วันนี้คนไทยโดยเฉพาะชาวบ้านฐานรากประสบปัญหากันถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน หนี้ ธ.ก.ส.เช่นเดียวกับชาวสระบุรีที่อยู่ที่นี่ ตนรู้ถึงปัญหาดี วันนี้จึงมีข่าวดีมาบอกพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพราะ พปชร.ออกโยบายเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ต้องการช่วยเหลือเกษตกรทุกครัวเรือน ทันทีที่จัดตั้วรัฐบาลเสร็จ พปชร พร้อมทำทันทีต่อทุนให้เกษตรกรครอบครัวละจำนวน 30,000 บาท

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า นโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน พี่หลายคนประสบปัญหาในเรื่องการตรวจสอบสิทธิให้เข้าหลักเกณฑ์กับนโยบายของบัตร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร เล็งเห็นความเดือดร้อนในเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อพรรคพลังประชารัฐเข้ามาเป็นรัฐบาล จะต้องมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการในการคัดกรองผู้ที่จะได้รับบัตรประชารัฐ จะต้องมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาคัดกรองด้วย เพราะถือว่ามีความใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยเราจะเพิ่มผู้ที่ได้รับสิทธิจาก 14 ล้านคน ในปัจจุบันให้ครอบคลุมพี่น้องคนไทยทั่วประเทศไม่ว่าจะจำนวนเท่าไหร่เราจะดูแลให้ทั่ว

“ในพื้นที่เขต 4 ครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐส่งนายองอาจ วงษ์ประยูร ที่เคยเป็นผู้แทนของสระบุรี เขต 3 ครั้งนี้จะส่งมอบพื้นที่ให้กับน้องผึ้ง เท่ากับว่า พี่น้องประชาชนที่นี่ จะได้รับผู้แทนที่มารับใช้ถึง 2 คน รวมถึงเขต 2 นายกฤษดา อินทร์พาเพียร ขอให้ชาวสระบุรีเลือกผู้สมัครทั้ง 3 คนของพรรคพลังประชารัฐด้วย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ด้านผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ อย่าง น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 กล่าวกับประชาชนว่า ตนดีใจมากที่ได้รับเกียรติจากประชาชนทุกคนมาร่วมฟังการปราศรัยในวันนี้ ปัญหาของประชาชนคือการต้องจ่ายเงินสูบน้ำทำนา ทั้งที่ในพื้นที่มีแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน แต่เรากลับต้องจ่ายเงินสูบน้ำ เพื่อทำนา บางคนต้องเอาทองไปจำนำ เพื่อนำมาจ่าย แต่วันนี้นโยบายจากพรรคพลังประชารัฐในเรื่องการแก้ปัญหาน้ำแล้ง ถือว่าเป็นนโยบายหลักของเราที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวสระบุรี ตนพร้อมแล้วที่จะเข้ามาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาววิหารแดงจะต้องไม่มีแล้ง ไม่ต้องรอคอยฝนจากเทวดาอีกต่อไป

“ขอให้อย่ามองว่าผึ้งเป็น กทม.แต่เด็กคนนี้มาขอรับใช้พี่น้องด้วยความมุ่งมั่น และจริงจังกับทุกปัญหาของพี่น้องชาวสระบุรี ผึ้งขอโอกาสได้เข้ามาพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นว่า ผึ้งและพรรคพลังประชารัฐจะไม่ทำให้พ่อแม่พี่น้องทุกคนต้องผิดหวังอย่างแน่นอน 14 พค.นี้ บัตรสีม่วงขอให้เลือกเบอร์ 1 ส่วนบัตรสีเขียวก็ให้กาเบอร์ 37 ให้ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30”