xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.ณัฎฐ์” โต้ “ศรีสุวรรณ” ปม "อุ๊งอิ๊ง" ถือครองหุ้นสื่อ ชี้แนวคำวินิจฉัยศาล รธน.ให้ถือตามวัตถุประสงค์ประกอบกิจการที่แท้จริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ดร.ณัฎฐ์” นักกฎหมายมหาชน  ไม่เห็นด้วย “ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.ตรวจสอบ "อุ๊งอิ๊ง" ปมถือครองหุ้นสื่อ ชี้แนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ถือตามวัตถุประสงค์ประกอบกิจการแท้จริง

กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โพสเฟซบุ๊ก กรณีตรวจพบการถือครองหุ้นสื่อในบริษัทมหาชนแห่งหนึ่งของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98(2) (ที่ถูก คือมาตรา 89(2)) ประกอบมาตรา 160(6) และมาตรา 98(3) ของบุคคลเสนอบัญชีพรรคการเมืองตามมาตรา 88 โดยจะนำความไปร้องเรียนต่อกกต.ตรวจสอบการถือหุ้นของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตพรรคเพื่อไทยในวันนี้

ล่าสุดวันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อกฎหมายและสัมภาษณ์กับ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์”มือกฎหมายมหาชนคนดัง โดยได้อธิบายข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญและให้ความรู้กฎหมายมหาชนแก่ประชาชนที่น่าสนใจ ว่า ก่อนอื่น ตนไม่เกี่ยวข้องกับนายศรีสุวรรณฯ เพราะตนไม่เคยรู้จักกับนายศรีสุวรรณฯ มาก่อน โดยตนจะอธิบายให้ความรู้แก่ประชาชน จะทำให้พี่น้องประชาชน คอการเมือง ผู้สมัคร ส.ส.หรือพรรคการเมือง จะได้ทราบข้อกฎหมายโดยไม่สับสน เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในเรื่องคุณลักษณะคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.ให้นำไปใช้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีโดยบัญญัติไว้ในมาตรา 89(2) กรณีห้ามเป็นเจ้าของหรือถือครองหุ้นสื่อตามมาตรา 98(3) เป็นบทบัญญัติห้ามเด็ดขาด ให้พี่น้องประชาชน พิจารณาเส้นแบ่งแยก ดังนี้ จุดเส้นแบ่ง การสมัคร ส.ส.ต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามมาตรา 98 จุดตัด คือ ก่อนยื่นใบสมัคร ส.ส.ส่วนเส้นแบ่งของว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ตามมาตรา 88 ประกอบมาตรา 89(2) ประกอบมาตรา 160 จุดตัด คือ ก่อนยื่นรายชื่อต่อ กกต.หมายความว่า ก่อนสมัคร ส.ส.หรือก่อนพรรคการเมืองจะยื่นบัญชีรายชื่อ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองนั้น ตามมาตรา 88 ผู้ถูกเสนอชื่อจะต้องยินยอมและจะต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตรา 98 (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ด้วย ข้อกฎหมายนี้ห้ามเด็ดขาด ห้ามทั้งผู้สมัคร ส.ส.และว่าที่นายกรัฐมนตรีของทุกพรรคการเมือง แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า พรรคการเมืองนั้นจะได้ ส.ส.ถึง 25 ที่นั่งและ ส.ส.หนึ่งในสิบเท่าที่มีของสภาจะโหวตเลือกชื่อ ตามบัญชีตระกร้าพรรคหรือไม่ พูดภาษาชาวบ้าน “นายกรัฐมนตรีคนนอก” ไม่จำต้องเป็น ส.ส. สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะการที่บุคคลใดประสงค์จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง บุคคลนั้นจะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตลอดจนต้องทุ่มเทการปฎิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติ รัฐธรรมนูญจึงได้กำหนดด่านคัดกรองด่านแรก คือ จะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ในการหาเสียงหรือสนับสนุนตนเองหรือใส่ร้ายบุคคลอื่นและอาจเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ส่วนการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจอันเป็นลักษณะผูกขาดตัดตอน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อมเพื่อป้องกันมิให้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์จากการดำรงตำแหน่งทางการเมือง

สำหรับ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ที่มาจากรายชื่อบุคคลผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.แจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติเห็นชอบว่า จะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกินสามรายชื่อต่อ กกต.ก่อนปิดรับสมัครและประกาศให้แก่ประชาชนทราบ ส่วนการกำหนดคุณสมบัติ ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 89(2) โดยมาตรา 160(6) ให้นำมาตรา 98 มาบังคับใช้ด้วย หมายความว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีใช้เกณฑ์เกี่ยวกับผู้สมัคร ส.ส.จัดตัด คือ ต้องคลีนก่อนที่พรรคการเมืองนั้นเสนอรายชื่อ ทั้งนี้ เกณฑ์กำหนดคุณสมบัติได้บัญญัติไว้ใน มาตรา 89(2) ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 160 ดังนั้น นายกรัฐมนตรีที่มาจากผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ ต้องไม่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ก่อนแจ้งรายชื่อต่อ กกต.ตามมาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98(3)

ส่วนประเด็นที่นายศรีสุวรรณฯจะร้องให้ กกต.ตรวจสอบนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ กกต.ได้ประกาศรายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยไปแล้ว คุณสมบัติว่าที่นายกรัฐมนตรี กกต.สามารถตรวจสอบภายหลังได้ ไม่ว่าอยู่ในขั้นตอนใด ส่วนการร้องขอให้ตรวจสอบหุ้นที่บอกว่าปรากฏทั่วไป ตนไม่แน่ใจว่า หุ้นที่ถือครองนั้นมีจริงหรือไม่ อย่างไร หากถือครองหุ้นจริง หุ้นที่ระบุนั้น เป็นหุ้นสื่อหรือไม่ อย่างไร เพราะมีแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการอย่างแท้จริง โดยศาลไม่ได้พิจารณาตามวัตถุประสงค์ทั่วไปเหมือนแนวคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งในปี 2562 ให้สังเกตว่า หากนายศรีสุวรรณ หากถือไม้เด็ดจริง ต้องรีบชิงแถลงข่าว ก่อนยื่นให้ กกต.ตรวจสอบ เพราะไม่ระบุว่า บริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง กลับไม่กล้าระบุว่า เป็นบริษัทอะไร ประกอบกิจการประเภทอะไร หากเป็นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เป็นเพียงบริษัทสร้างบ้านขาย ประชาชนจะหัวเราะเอา ไม่เกี่ยวกับถือครองหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใดๆเลย มุมมองสำหรับตนจะต้องยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักความถูกต้อง ไม่ใช่ว่าเป็นนักร้อง ร้องมั่วไปหมด แล้วสังคมจะได้ประโยชน์อะไร โดยเฉพาะแพรทองธารฯ เพิ่งคลอดบุตรวานนี้ ต้องแสดงความยินดีกับสมาชิกใหม่ของครอบครัวชินวัตร “น้องธาษิณ” อย่าไปพลาดพิงถึงเด็ก ให้พิจารณาถึงสวัสดิภาพเด็ก ประชาชนจะมองว่าไปรังแกผู้หญิง ให้เป็นสุภาพบุรุษหน่อย โดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้ง นายศรีสุวรรณฯ ต้องใช้ความระมัดระวังในการร้องเรียน คาบเกี่ยวกับคดีอาญาตามกฎหมายเลือกตั้ง ศรนั้นจะกลับมาหาตนเอง การตรวจสอบภาคประชาชนอย่างเข้มข้นนั้นเป็นข้อดี แต่ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์บ้านเมืองและประโยชน์สาธารณะ


กำลังโหลดความคิดเห็น