xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อหลักฐานซื้อเสียงโดนจับโป๊ะ กลายเป็นหนังคนละม้วน Chuweed เต้นแร้งเต้นกา ต้านการเมืองสกปรก จึงเป็นแค่คอนเทนต์ **ดรามา“อุ๊งอิ๊ง”คลอดลูกชาย ทัวร์ลง “ซินแสเข่ง” ที่ทำนายว่า “ดวงไม่เสริมบารมีแม่ให้ประสบความสำเร็จ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


**เมื่อหลักฐานซื้อเสียงโดนจับโป๊ะ กลายเป็นหนังคนละม้วน Chuweed เต้นแร้งเต้นกา ต้านการเมืองสกปรก จึงเป็นแค่คอนเทนต์


หาแสงให้ตัวเองได้ตลอด สำหรับ “เสี่ยอ่าง” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตั้งแต่วันแรกที่ กกต.เปิดรับสมัครเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เมื่อ 4 เม.ย. ก็ถือไม้กวาดบุกเข้าไปถึงสถานที่รับสมัคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เขตดินแดง แสดงสัญลักษณ์ว่าจะมากวาดการเมืองที่สกปรกให้สะอาด ต่อต้าน ส.ส.งูเห่า ต่อต้านส.ส.ขายตัว

มองผิวเผิน ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของฉายา “จอมแฉ” อยากเห็นการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมจริง ๆ ทำเอาแฟนคลับปรบมือยกใหญ่ ยิ่งสรรเสริญกันเกรียวกราว แต่พอดูให้ละเอียดลงไปสักหน่อย ดูจากป้ายที่เอามาชูประกอบ ในวันนั้น มีทั้งป้ายต่อต้านกัญชา ป้ายทวงคืนที่ดินเขากระโดง ก็เห็นได้ว่า งานนี้ “เสี่ยอ่าง” มีธงที่จะมาด้อยค่าพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งก็คือพรรคภูมิใจไทยนั่นเอง

หลังจากนั้น นอกจากการเดินสายโจมตีเรื่องกัญชาแล้ว “เสี่ยอ่าง”ได้พยายามจับประเด็นเรื่องการซื้อเสียง ซึ่งก็หนีไม่พ้นการพุ่งเป้าไปที่พรรคภูมิใจไทยเหมือนเดิม

จนวันที่ 27 เม.ย. “ชูวิทย์” ได้ไปยื่นร้อง กกต. อ้างว่ามีหลักฐานการโอนเงินของ “ดรุณี พูนประสิทธิ์” ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย ไปยังธนาคารกรุงไทย ให้กับประชาชนรายหนึ่งจำนวน 3,000 บาท เมื่อวันที่ 15 เม.ย. พร้อมอ้างถึงการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า “เอาไว้ใช้นะคะ” และข้อความตอบกลับจากผู้รับเงิน ว่า “กราบงามๆ ในน้ำใจของน้องสาว”

“บุคคลที่ได้รับการโอนเงินเป็นครูสูงอายุ ที่อยากเห็นการเมืองสะอาด ให้ถ้อยคำเป็นหนังสือที่ผมนำมายื่นกับ กกต.ในวันนี้ ว่า เงินที่ได้รับโอนนั้นมีวัตถุประสงค์ให้เพื่อการลงคะแนนให้กับผู้จ่ายเงิน ไม่ได้เป็นการชำระหนี้” เสี่ยอ่าง กล่าวพร้อมชูเอกสารให้ผู้สื่อข่าวดู แสดงความมั่นใจว่า หลักฐานที่นำมายื่น กกต.จะสามารถยุบพรรคภูมิใจไทย ได้อย่างแน่นอน

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
แต่ล่าสุด ข้อมูลจาก “พิชัย เอี่ยมอ่อน” ทนายความผู้รับมอบอำนาจพรรคภูมิใจไทย ที่เอามาเปิดเผยต่อสื่อเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) ความจริงที่ได้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า เป็นหนังคนละม้วน เนื่องจากการมีรายละเอียดชัดเจนว่า มีการปลอมลายเซ็นเพื่อนำเรื่องไปร้องเรียน กกต.

บุคคลที่ “ชูวิทย์” กล่าวอ้างชื่อย่อ “อ.อ่าง” และมีลายเซ็นนั้น หมายถึง “นายอาทิติ งามวงษ์” โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้ส่งหนังสือและพยานหลักฐานไปให้แต่อย่างใด

ความจริงเพียงหนึ่งเดียวของเรื่องนี้ นายอาทิติ งามวงษ์ ให้ข้อมูลว่า มีคนชื่อ “ทวีศักดิ์” หรือ “ตุ๋ย” ไม่ทราบนามสกุล ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่าในวันที่เขาเข้ารักษาตัวที่ รพ.สมเด็จพระยุพราช สระแก้ว นางดรุณี เคยช่วยเหลือเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ ก็ตอบไปว่า ไม่เคยช่วย แต่เคยให้ยืมเงิน 3,000 บาท แต่นายทวีศักดิ์ ไม่เชื่อ พร้อมบอกว่าได้ยินว่า ช่วยในหลักหมื่น และขอดูหลักฐาน ตนจึงได้ส่งหลักฐานการโอนเงินให้ทางไลน์

“จากนั้น นายทวีศักดิ์ จึงบอกว่า เชื่อแล้ว และต้องการให้ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ และขอนำหลักฐานไปแจ้งเป็นผู้ช่วยหาเสียงแก่พรรคการเมืองคู่แข่ง จึงได้ส่งภาพบัตรประชาชน ด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมลายมือชื่อ ไปทางไลน์ของนายทวีศักดิ์ ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นการนำหลักฐานไปประกอบการแจ้งของนายชูวิทย์ แต่อย่างใด”

เมื่อกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย. นายอาทิติ ทราบเรื่องที่นายชูวิทย์ แถลงข่าวว่าได้ไปยื่นต่อ กกต. ระหว่างเดินทางไปทำธุระ จึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านทับใหม่ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 00.59 น.ของวันที่ 28 เม.ย.66 และได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ อีกครั้ง ที่ สภ.กบินทร์บุรี ในวันที่ 29 เม.ย. 2566 เวลา 17.37 น.

ข้อมูลจาก “นายอาทิติ” ยืนยันชัดเจนว่า “นางดรุณี” ไม่ได้ให้เงินเพื่อจูงใจ ให้ลงคะแนนเสียงให้นางดรุณีแต่อย่างใด!!

ก่อนหน้านี้ นายอาทิติก็เป็นพิธีกรในงานปราศรัยต่างๆ ให้นางดรุณีหลายครั้ง และคิดว่ายังมีค่าจ้างค้างอยู่ แต่ที่จริงได้รับครบถ้วนแล้ว จึงขอยืมเงิน 3,000 บาท และบอกว่าจะชำระคืนโดยการทำงานเป็นพิธีกร นางดรุณีจึงได้โอนเงินมาให้และ ยืนยันว่า ไม่ได้ส่งข้อความลักษณะจูงใจให้ไปลงคะแนนเสียง หรือพูดเกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่อย่างใด

พิชัย เอี่ยมอ่อน
หลังจากนั้นนายอาทิติได้นำเงินสดไปคืนให้นางดรุณี เนื่องจากไม่ได้ทำงานเป็นพิธีกรให้นางดรุณีอีกต่อไป เพราะมีพิธีกรครบแล้ว

เรื่องราวก็เป็นประการฉะนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ กกต.จะรับเรื่องไปพิจารณาและมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ “เสี่ยอ่าง” ก็ได้คดีติดตัวเพิ่มมาอีก เพราะกรณีนี้พรรคภูมิใจไทย และนางดรุณี ในฐานะผู้เสียหายจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

และนี่ไม่ใช่กรณีเดียวที่ “จอมแฉ” อ้างว่ามีหลักฐานที่เกี่ยวโยงถึงการซื้อเสียงของพรรคภูมิใจไทย แต่ท้ายที่สุดก็โดน “จับโป๊ะ”ได้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง

ก่อนหน้านี้ ก็มีกรณีนายชูวิทย์อ้างว่ามีคลิปอาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ทีมงานของผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทยที่หนองคายเดินเก็บบัตรประชาชน แต่ในที่สุด นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็บอกว่า เรื่องนี้ได้มีการสอบถามไปยังผู้รับผิดชอบแล้ว เห็นว่ายังไม่ถึงกับต้องเชิญนายชูวิทย์มาให้ข้อมูล เพราะเป็นแค่การสร้างคอนเทนต์

**ดรามา“อุ๊งอิ๊ง”คลอดลูกชาย ทัวร์ลง “ซินแสเข่ง” ที่ทำนายว่า “ดวงไม่เสริมบารมีแม่ให้ประสบความสำเร็จ”

เช้าวันที่ 1 พ.ค. วันเมย์เดย์ หรือ วันแรงงานแห่งชาติ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ได้คลอด “น้องธาษิณ” เป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวชินวัตร โดย“อุ๊งอิ๊ง”ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ว่า... สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ชื่อเล่นชื่อ “ธาษิณ” ครับ ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้ คุณแม่รอแข็งแรงก่อน จะไปพบพี่ๆ สื่อมวลชนครับ

ขณะที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็น “คุณตา” ก็แสดงความดีใจ ด้วยการทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ว่า “เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชายชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาต กลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆนี้ครับ ขออนุญาตนะครับ”

แพทองธาร ชินวัตร
ทวีตของทักษิณนี้ เมื่อมีการเผยแพร่ออกไปก็ก่อกระแสดรามา โยงการเมืองเป็นนัยว่า เป็นการส่งสัญญาณถึงบรรดาแฟนคลับ ช่วยทำให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทีเถอะ จะได้กลับมาเลี้ยงหลาน

ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ได้โอกาสเย้ยหยัน บอกว่าจะกลับมาเป็นครั้ง ที่ 100 แล้ว ไม่เห็นมาสักที ... ยกตัวอย่าง“นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ก็โพสต์ว่า ...ไหนๆ คุณทักษิณ ได้อุตส่าห์เขียนข้อความ ขออนุญาต ลงในทวิตเตอร์ ผมในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ขอประกาศดังๆเลย “อนุญาตครับ” มาได้เลย (อย่าไม่มาเสียอีกล่ะ) ...หรืออย่าง “กนก รัตน์วงศ์สกุล” พิธีกรรายการข่าว ช่อง TOPNEWS โพสต์ข้อความสั้นๆว่า เฮ้ย! ษิณ ...ในคุกเขาไม่ให้เลี้ยงเด็กนะ

นั่นเป็นดรามาที่มี “ทักษิณ” เป็นตัวชูโรง

ยังมีดรามาอีกมุมหนึ่ง เมื่อ “ซินแสเข่ง” ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง ผอ.สถาบันโหราศาสตร์ พยากรณ์ แห่งประเทศไทย ได้ผูกดวง “น้องธาษิณ” แล้วทำนายว่า ... พื้นดวงชะตาเป็นเด็กที่ใจอ่อน เป็นผู้ที่มีครูบาอาจารย์อยู่ในตัวเอง สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่นได้ มีความเป็นผู้นำ เป็นคนที่ไม่ยอมคน เป็นเด็กหนุ่มที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม อารมณ์อ่อนไหว และมีเจ้าทุกข์อยู่ในตน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นเด็กใจใหญ่ แต่จะมีอารมณ์ที่ขัดแย้งระหว่างความคิดกับจิตใจ ก่อให้เกิดความสับสน ลังเลไม่มั่นใจ เป็นคนที่ทำคุณคนไม่ขึ้น ทำดีกลับถูกมองในแง่ไม่ดี รู้จักปรับตัวเองได้ทุกสถานการณ์ เข้ากับผู้หลักผู้ใหญ่ก็ได้ เข้ากับระดับล่างก็ได้

“ซินแสเข่ง” ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง
ไฮไลต์ของคำทำนายคือ ดวงของ “น้องธาษิณ”จะเสริมบารมีให้กับผู้เป็นแม่ ที่กำลังลุ้นเก้าอี้นายกฯหญิงคนที่สองของประเทศไทยหรือไม่นั้น “ซินแสเข่ง” บอกว่า จะเป็นกลางๆ มากกว่า จะว่าดีก็ไม่เชิง จะว่าไม่ดีก็ไม่ใช่ ดวงชะตาของเด็กนั้น ถ้าหากว่าวิเคราะห์ไปในตามกำหนด ฤกษ์งามยามดีที่คลอดมานั้น ก็ถือว่าอนาคตอาจจะเป็นผู้นำก็ได้ แต่ต้องให้เด็กรู้จักปรับจูนจิตใจตนเอง ให้มีความเข้าใจในความคิดและจิตใจ...

จะเห็นว่า คำทำนายของ “ซินแสเข่ง” ส่วนใหญ่ก็ออกไปในทางดี ฟังได้เข้าหู จะมีก็ตรงที่ว่าดวงจะเสริมบารมี ผู้เป็นแม่หรือไม่ ที่คำทำนายออกมา แบบกลางๆ จะว่าดีก็ไม่เชิง จะว่าไม่ดีก็ไม่ใช่ ...ตรงนี้แหละที่คนอ่าน คนฟัง โดยเฉพาะถ้านำไปโยงการเมือง ก็จะตีความว่า “ดวงไม่เสริมบารมีแม่ให้ประสบความสำเร็จ”

หลังคำทำนายเผยแพร่ไป ก็เกิดดรามา ทัวร์ลง “ซินแสเข่ง” กันแบบไม่มีที่จอด มีคอมเมนต์เข้ามาสารพัดที่แสดงถึงความไม่พอใจ บ้างก็ว่าผิดจรรยาบรรณหมอดู ใครอนุญาตให้ทำนาย มีทั้งคำสุภาพ และหยาบคาย... ในจำนวนนี้ก็มี “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย รวมอยู่ด้วย โดยออกมาทวีต ไปถึงซินแสคนดังว่า...เด็กเพิ่งคลอดไม่กี่ชั่วโมง พ่อแม่เขาก็ไม่ได้ขอให้ดูดวง ไปหยิบเอามาทำนายออกสื่อ ใจต้องสกปรกขนาดไหน เลอะเทอะฉิบหายเลยมึง

เพราะการเมืองแบบสองขั้วเดินทางถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง การหาเสียง การวางกลยุทธ์ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เมื่อ “อุ๊งอิ๊ง”มาคลอดน้อง “ธาษิณ”ในช่วงนี้ จึงมีดรามาอย่างเลี่ยงไม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น