วันนี้(1 พ.ค.)คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านลาดปลาเค้า 60 ทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 9 รูป พร้อมกับผู้บริหารพรรค เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด 1 พฤษภาคม 2566
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวเปิดใจ “ชีวิตการเมืองเข้าปีที่ 32”ทิศทางและภารกิจทางการเมืองว่าขอขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคนการมาสร้างพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายภายใต้กติการัฐธรรมนูญและสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน
สงครามการเมืองสองขั้วสร้างวิกฤตมาอย่างยาวนานกว่า 17ปีจนเกิดการรัฐประหารถึงสองครั้งประชาชนพ่ายแพ้มาโดยตลอดและสงครามครั้งนี้จะเป็น Last Warของทั้งสองขั้วที่จะแพ้ไม่ได้
'สุดารัตน์'และทีมไทยสร้างไทยจะไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหารอีกต่อไปเพราะตลอดชีวิตการเมืองต้องพบเจอการรัฐประหารถึง 3ครั้งแต่ครั้งนี้เลวร้ายกว่าทุกครั้งเพราะมีการสืบทอดอำนาจอาทิยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีหรือสว.เลือกนายกรัฐมนตรี
การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการใช้เงินและอำนาจหรือ Money politicsมากที่สุดจึงมีความเสี่ยงอย่าง 3อย่างคือ
•ความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน
จากการใช้เงินจากภาษีประชาชนในอนาคตมาใช้ในการเลือกตั้งเมื่อได้รับเลือกเข้าไปในสภาจะทำให้ต้องเข้าไปถอนทุน
•ความความเสี่ยงต่อสถานะทางด้านการคลังของประเทศที่ทุกพรรคการเมืองต่างออกนโยบายแจกเงินโดยไม่มีการวางอย่างเป็นระบบรอบด้านจึงไม่มีความยั่งยืน
•ความเสี่ยงที่จะนำมาสู่ความขัดแย้งทางการเมืองจนเป็นข้ออ้างให้เกิดการรัฐประหารอีกรอบ
การเมืองใหม่ในมิติ'ไทยสร้างไทย'คือประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมคิดร่วมทำไม่ใช่ประชาชนมีอำนาจแค่วันลงคะแนนเลือกตั้งวันเดียว
ก้าวแรกของการปลดล็อกวงจรอุบาทว์ออกจากประเทศไทยคือรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนโดยการเลือกตั้งส.ส.ร.คนทำรัฐประหารคือกบฏต้องได้รับโทษสูงสุด
ประชาชนและพรรคการเมืองร่วมกันออกแบบนโยบายในการแก้ปัญหาประเทศแบบครบวงจรยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและมุ่งแก้ปัญหาจาก 'ล่างขึ้นบน'สร้างวัฒนธรรมทางการเมืองที่ทุกองค์กรต้องถูกตรวจสอบได้และเราจะปกป้องผลประโยชน์ประชาชนจากกลุ่มนายทุนใหญ่ที่เอารัดเอาเปรียบผ่านการทุจริตเชิงนโยบาย
'สุดารัตน์'และไทยสร้างไทยยอมเหนื่อยเพื่อให้ประชาชนทุกคนหายเหนื่อยเรามาสร้างชัยชนะกับประชาชนและขอยืนยันว่า "ไทยสร้างไทย"เป็นพรรคประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและไม่เป็นที่เหยียบยืนให้กับเผด็จการ
'ไทยสร้างไทย'พรรคเดียวไม่เกี่ยวกับใครไม่เป็นมอนินีของใครเพราะไทยสร้างไทย "นายใหญ่คือประชาชน"