"เต้ มงคลกิตติ์"ควง มาดามอ้อ ชู นโยบาย พี่วินกับไรเดอร์’ ทำงานได้อย่างสมศักดิ์ศรี เชื่อ ปชช.วางใจไทยศรีวิไลย์เข้าไปบริหารประเทศ

วันนี้(30 เม.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวพัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช หรือ มาดามอ้อ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 7 (เขตบางซื่อ และเขตดุสิต เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี) หมายเลข 11 ลงพื้นที่หาเสียงย่านตลาดราชวัตร เขตดุสิต ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ได้สวมบทบาทเป็นไรเดอร์ของแกร็บ โดยขับเคียงข้างมากับ นางสาวพัทธนันท์ ที่มาในบทบาทเป็นพี่วินมอเตอร์ไซด์ ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้กับประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายของในตลาด และบรรดาพี่วินมอเตอร์ไซด์จำนวนมาก โดยก่อนที่จะเข้าตลาด

ทั้งนี้นายมงคลกิตติ์และนางสาวพัทธนันท์ ได้ทำการตักบาตรเช้าพร้อมใส่แผ่นผับนโยบายลงไปในบาตรพระด้วย พร้อมกล่าวว่า “หลวงพ่ออาจจะไม่สามารถเลือกตั้งได้ แต่อย่างน้อยฝากบอกลูกศิษย์ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 เบอร์ 11 และ พรรคไทยศรีวิไลย์” ก่อนจะเดินพบปะพี่ๆวินรถจักยานยนต์และไรเดอร์ส่งอาหาร ซึ่งต่างยกนิ้วให้กับ นายมงคลกิตติ์ ถึงบทบาทในสภาผู้แทนราษฎรตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จากนั้นเดินเท้าเข้าไปยังภายในตลาดราชวัตรพร้อมประกาศชูนโยบายหลักและแนวทางการทำงานของพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งได้เสียงตอบรับที่ดีจากพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดราชวัตรเป็

โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การที่ตนและนางสาวพัทธนันท์ ขี่มอเตอร์ไซด์มาลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดราชวัตรพร้อมๆ กัน แต่แตกต่างกันที่ตนสวมบทบาทเป็นเป็นไรเดอร์ผู้ส่งความอร่อยจากร้านอาหารที่อร่อยและมีมากมายในย่านตลาดราชวัตร ส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ส่วนนางสาวพัทธนันท์ สวมบทบาท เป็นพี่วินมอเตอร์ไซด์ที่ขนส่งคนไปในที่ต่างๆซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของพรรคไทยศรีวิไลย์ มีนโยบายที่รองรับและสามารถช่วยกลุ่มคนเหล่านี้ได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแกร็บ วินรถจักยานยนต์ หรือรถตุ๊กตุ๊ก ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐเท่าที่ควร ตอนนี้ทางกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดว่า บรรดาอาชีพเหล่านี้ ถ้าจะมาเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ก็จะต้องมาดำเนินการเป็นผู้ประกันตนด้วยตนเอง ตามมาตรา 40 โดยสมมติว่า ผู้ประกันตนจะต้องจ่าย 70 บาท และรัฐจะสมทบให้อีก 30 บาท เป็น 100 บาท ซึ่งเดิมหากเจ็บป่วยจะได้ชดเชยวันละ 300 บาท กรณีทุพพลภาพได้ 500 -1,000 บาทต่อเดือน หากเสียชีวิตได้ 25,000 และสมทบเพิ่มอีก 8,000 บาท รวมเป็น 33,000 บาท แต่มีข้อแม้คือการจะได้เงินสบทบ 8,000 บาทนั้น จะต้องส่งเงินมาตรา 40 ไม่น้อยกว่า 60 เดือน หรือ 5 ปี ดังนั้นแนวทางนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์จะเข้ามาดูแลกลุ่มอาชีพเหล่านี้โดยมาตรา40 จะเพิ่มเงินสมทบให้อีก 130 บาทต่อเดือน หากเจ็บป่วยได้ชดเชยวันละ 500 บาท กรณีทุพพลภาพได้ วันละ 500 – 1,000 บาท หากเสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยา 5 แสนบาท ซึ่งเป็นนโยบายหลักของทางพรรคไทยศรีวิไลย์อยู่แล้ว ดังนั้นประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่ได้รับรับเงินในส่วนนี้ โดยทางสำนักงานประกันสังคมต้องเข้ามาดูแล เพื่อเป็นหลักประกันให้กับประชาชนที่ทำอาชีพอิสระและเสี่ยงอันตรายแบบพี่วินและไรเดอร์ รวมทั้ง ยังมีนโยบายอื่นๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ เช่น การลดราคาพลังงานเพื่อประชาชน โดยราคาน้ำมันลิตรละ 25 บาท ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 4 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเป็นประโยชน์ทำให้พี่วินและไรเดอร์ สามารถมีรายได้และเงินเก็บมากขึ้น โครงการรับประกันชีวิตทุกชีวิต 500,000 บาท ซึ่งเชื่อว่า จะได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะถืออาชีพที่เสี่ยงอันตรายตลอดเวลาในการทำงาน การเพิ่มสิทธิประโยชน์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 3,000 บาท และถ้าพี่วินหรือไรเดอร์คนไหนเป็นอาสาสมัคร ทั้ง อสม. หรือ อปพร. ก็จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมอีกต่างหาก และยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครัวเรือนละ 1.5 แสนบาทด้วย

นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับระยะเวลาหาเสียงที่เหลืออยู่ราว 2 สัปดาห์นั้น ก็จะเน้นย้ำถึงการดำเนินการในการหาเงินเข้าประเทศ เพื่อจะทำเป็นนโยบายต่างๆ ตามที่พรรคไทยศรีวิไลย์ได้ประกาศหาเสียง ซึ่งจะอธิบายนโยบายแต่ละเรื่องว่าหาเงินมาจากตรงไหนบ้าง เนื่องจากประเทศไทยตอนนี้มีหนี้สาธารณะเยอะมากจนไม่สามารถกู้เงินได้ จึงจำเป็นต้องนำเงินสีเทาเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นคาสิโน หวยใต้ดินที่ถูกกฎหมาย รวมถึงโสเภณี หรือ สถานบริการอาบ อบ นวด ต่างๆ จะต้องมีการทำให้ถูกกฎหมายโดยการออกใบกระกอบวิชาชีพและเรียกเก็บภาษี ซึ่งภาษีที่ได้มานั้นจะนำไปใช้ในเรื่องของการศึกษาตั้งแต่อนุบาล – ปริญญาตรี นอกจากนี้จะผลักดันเรื่องของประชากร คือหากพบตั้งครรภ์รับเลย 2 แสนบาท จากนั้น เดือนละ 5 พัน จนถึงอายุ 5 ปี เพื่อช่วยเพิ่มประชากรให้มีตลาดแรงงานภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่หลายประเทศประสบอยู่ในขณะนี้

“การลงพื้นที่ตลาดราชวัตรในวันนี้ ถือเป็นพื้นที่ที่สำคัญของเขตดุสิต เพราะย่านราชวัตรเป็นจุดหมายสำคัญของการคมนาคม เพราะเมื่อดูจากแผนที่ตั้งแล้ว ปรากฏว่า ย่านราชวัตร เป็นพื้นที่ใกล้กับสถานีรถไฟสามเสน ทางด่วนพิเศษศรีรัช และการคมนาคมทางน้ำคือท่าเรือพายัพที่สามารถเดินทางไปยังปากเกร็ดและเอเชียทิคได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้ง ย่านตลาดราชวัตรก็เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีร้านอร่อยๆ ที่บรรดาไรเดอร์ต่างได้รับออเดอร์จากที่ต่างๆ ให้มารับอาหารอร่อยๆ เพื่อเติมพลังในการทำงานจากตลาดแห่งนี้ ดังนั้น ผมกับมาดามอ้อ มาด้วยธีมของ ‘พี่วินกับไรเดอร์’ เนื่องมาจากว่า ทั้ง 2 อาชีพนี้ ถือเป็นอาชีพที่ขับเคลื่อนทั้งคนและอาหารหรือสิ่งของต่างๆ ให้ไปสู่จุดหมายตามที่ประชาชนต้องการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พรรคไทยศรีวิไลย์จะไม่ทอดทิ้งพวกพี่ๆ วินมอเตอร์ไซด์กับไรเดอร์ โดยมีนโยบายที่รองรับเพื่อให้พี่วินกับไรเดอร์สามารถประกอบอาชีพได้อย่างสมศักดิ์ศรี โดยจะต้องมีเงินเหลือทั้งในชีวิตประจำวันเพื่อนำมาจับจ่ายและเก็บออม และมีหลักประกันให้ครอบครัวในเวลาไม่คาดคิด ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมขี่มอเตอร์ไซด์พามาดามอ้อมาจ่ายตลาดที่ตลาดบางซ่อน นั่นถือเป็นบทบาทของคนรักที่ดีที่ฝ่ายชายจะต้องอำนวยความสะดวกกับฝ่ายหญิง แต่วันนี้ ผมกับมาดามอ้อ เรามาขี่มอเตอร์ไซด์ลงพื้นที่ด้วยกัน ถึงแม้จะแตกต่างกันในเรื่องของประเภทการโดยสารก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทของสามีภรรยาในโลกยุคใหม่ ที่ไม่มีใครที่จะมากำหนดว่า ใครจะต้องทำหน้าที่อะไร แต่จะต้องทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนไปพร้อมๆกัน อีกด้วย ทั้งนี้ จากการที่เหลือเวลาราวๆ 2 สัปดาห์ในการหาเสียง พรรคไทยศรีวิไลย์ จะเดินหาเสียงให้ทั่วพื้นที่ของประเทศไทย และเน้นหนักให้ประชาชนจำทั้งเบอร์พรรคและเบอร์ผู้สมัครด้วย รวมทั้ง จะย้ำในเรื่องของการหารายได้เข้าประเทศ เพราะต้องยอมรับว่า นโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ถือเป็นยาแรงที่จะช่วยประชาชนได้มาก และเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนทั่วไป แต่ยังไม่มีความมั่นใจในเรื่องของการหาเงินเข้าประเทศ ดังนั้น ผมจะอธิบายเป็นฉากๆ ว่า จะหาเงินด้วยวิธีไหน และเมื่ออธิบายจบก็เชื่อว่า ประชาชนมีความสบายใจ และมอบความไว้วางใจให้พรรคไทยศรีวิไลย์เข้าไปทำงานบริหารประเทศด้วย”นายมงคลกิตติ์ กล่าว