หัวหน้าทีมหาเสียง กทม.พปชร. ลงพื้นที่นำผู้สมัครหาเสียง ชู Soft Power ชุมชน ดึงนักท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โวยพรรคถูกใส่ร้ายคลิปซื้อเสียง
วันนี้ (30 เม.ย.) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรค ได้ลงพื้นที่ตลาดสดพัฒนาการ เขตประเวศ และชุมชนทับช้างคลองบน ค่ายมวยไชยา บ้านช่างไทย เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ร่วมกับ น.ส.แพรว กิจสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 21 (ประเวศ-สะพานสูง) หมายเลข 2 เพื่อพบปะประชาชน
ก่อนลงพื้นที่ นายสกลธี กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปการแจกเงินซื้อเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ต้องใช้วิจารณญาณว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ที่จะมีการทุจริต แต่คนทำผิดกลับสวมเสื้อพรรคยืนแจกเงินพร้อมแนบป้ายหาเสียงอยู่ชัดเจนให้คนถ่ายคลิปง่ายๆ ซึ่งเรื่องนี้ยังมีสื่อวิเคราะห์ไว้ว่าน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งใส่ร้ายจากพรรคการเมืองคู่แข่ง ตนจึงอยากให้ กกต.เข้ามาดูแลป้องกันการใช้วิชามารแบบนี้โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง ในส่วนของพรรคฯ และผู้สมัครก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการแจ้งความให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว
จากนั้น นายสกลธี และ น.ส.แพรว ได้ลงพื้นที่ตลาดสดพัฒนาการ โดย น.ส.แพรว กล่าวว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย เพราะชุดนโยบายด้านเศรษฐกิจปากท้องของพรรคพลังรัฐตอบโจทย์เรื่องการลดค่าครองชีพ-เพิ่มเงินในกระเป๋า ทั้งการลดค่าไฟฟ้าค่าแก๊ส ลดค่าน้ำมัน รวมไปถึงการเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ ที่จะทำให้ทุกคนมีเงินมาทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
ด้าน นายสกลธี กล่าวว่า นอกเหนือจากการช่วยเหลือเรื่องปากท้องซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนการ การสร้างย่านเศรษฐกิจใหม่ๆ ในกรุงเทพ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเริ่มทำทันที โดยเฉลี่ยแล้วนักท่องเที่ยวจะเข้ามาอยู่ในกรุงเทพนานประมาณ 4 วัน หากเราสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจเพิ่มเติม ก็จะยืดระยะเวลาการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติให้นานขึ้น เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ฐานราก เช่นในเขตสะพานสูง มีชุมชนทับช้างคลองบนเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ชาวบ้านมีวิถีชีวิตการจับปลาด้วยการใช้ยอ สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ และยังสามารถพัฒนาการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากปลาเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งทั้งรัฐบาลและท้องถิ่นต้องช่วยกัน โดยใช้เงินจากกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท มาทำตรงนี้
จากนั้น นายสกลธี ได้ร่วมต่อยมวยที่ค่ายมวยไชยา บ้านช่างไทย โดยนายสกลธีกล่าวว่า มวยเป็น Soft Power ที่มีพลังของประเทศไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะมวยไชยาที่มีเอกลักษณ์พิเศษ หากได้รับการส่งเสริมที่ถูกต้องก็จะสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนได้มากขึ้นไปอีก จึงอยากจะขอโอกาสให้คนรุ่นใหม่อย่าง น.ส.แพรว หมายเลข 2 เข้ามาช่วยทำงานนี้ เพราะเป็นคนพื้นที่ตั้งแต่เกิด รู้คุณค่าของศิลปวัฒนธรรมในเขตประเวศ เขตสะพานสูง ที่สามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้