xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ” อ้อนชาวแปดริ้ว เลือก “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 7 คน เป็นปากเสียง-แก้ปัญหา-พัฒนาพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เพื่อไทย” จัดปราศรัยเขาหินซ้อน ฉะเชิงเทรา “สุทิน” ปลุก ปชช.ถึงเวลาต้องเลือก หากไม่อยากให้ “ประยุทธ์” ไปต่อต้องกา “เพื่อไทย” ด้าน “มดดำ-คชาภา” โดดร่วมปราศรัย ฝากน้องชายเป็นผู้แทนฯ “สุชาติ” ย้ำ เหตุออกจากพรรคเก่า ฉะไม่ทำตามสัญญา ปชช. ปลุก “คนแปดริ้ว” เลือก พท.ให้ถล่มทลาย ระบุ หากแลนด์สไลด์ “ฉะเชิงเทรา” ได้ ส.ส. 7 คน เป็นปากเสียง-แก้ปัญหา-พัฒนาพื้นที่ ลั่นได้เป็น รบ. ขอ 2 ปี แก้ปัญหาช้างป่า

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 เวลา 18.00 น. ที่บริเวณที่ว่างทางแยก 331 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยย่อย นำโดย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และ นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคภาคตะวันออก ร่วมด้วย นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 เบอร์ 3 และ นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 เบอร์ 5 รวมไปถึง นายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีกรชื่อดัง บุตรชายของนายสุชาติ ซึ่งเป็นสมาชิก และผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย โดยมีประชาชนในพื้นที่มารอรับฟังคำปราศรัยอย่างคึกคัก


นายสุทิน กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า วันนี้อยากให้ประชาชนคิดดูว่า 4 ปีที่ผ่านมา ชีวิตของเราดีหรือไม่ พอใจกับชีวิตหรือไม่ ถ้าพอใจก็ให้คนเก่าเป็นต่อ แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหวแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนคนใหม่ ถ้าไม่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ต่อ ก็ต้องคิดอยากจะให้ใครเป็นนายกฯแทน ซึ่งตอนนี้ให้เลือก 2 มุม คือ มุมแดง เป็นนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย กับมุมน้ำเงิน คือ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อตัดสินใจเลือกนายกฯได้แล้วก็ต้องเลือก ส.ส.ที่มาจากพรรคนั้น

นอกจากนี้ ยังมี นายอดิศร เพียงเกษ และ นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ ผลัดเปลี่ยนขึ้นไปปราศรัยถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรคพลัส ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย, การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570, คนจบปริญญาตรี รวมถึง คนทำงานข้าราชการ ต้องได้เงินเดือน เริ่มต้น 25,000 บาท, การพักหนี้เกษตรกร ทั้งต้นและดอก 3 ปี, การเพิ่มรายได้เกษตรกร รวมไปถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะให้ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ นำไปจับจ่ายใช้สอยภายในชุมชนไม่เกิน 4 กิโลเมตร ภายใน 6 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น


ช่วงหนึ่ง นายคชาภา ได้ร่วมปราศรัยกล่าวถึงความผูกพันของตระกูลตันเจริญ ที่มีกับ จ.ฉะเชิงเทรา มาอย่างยาวนาน รวมทั้งขอฝาก นายพงศ์ศรัณย์ ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ นายศักดิ์ชาย บุตรชาย นายสุชาติ และเป็นน้องชายของนายคชาภา ให้เข้าไปเป็นผู้แทนฯของคนแปดริ้วด้วย

ก่อนที่ นายสุชาติ กล่าวปราศรัยถึงบทบาทการทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในสมัยที่ผ่านมาว่า ตนเป็นคนเดียวที่กล้าตำหนินายกฯในสภา เพราะรับไม่ได้กับการที่รัฐบาลหรือฝ่ายบริหารไม่ให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ โดยการที่นายกฯ หรือรัฐมนตรี มักขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามที่ ส.ส.หรือผู้แทนราษฎรนำมาสอบถามแทนพี่น้องประชาชน รวมไปถึงไม่เข้าร่วมประชุมสภาในวาระสำคัญๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น


นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ตนเป็นผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งก่อน เพราะต้องการเอาคนจากรัฐประหารที่อยู่ในระบอบ คสช. 4 ปีก่อนหน้านั้น มาเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง เพราะสมัย คสช.บ้านอื่นเมืองอื่นเขาไม่คบค้าสมาคมด้วย นอกจากนี้ ตนได้เขียนนโยบายเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งมีหลักคิดบังคับให้คนจนตลอดชาติ จึงพยายามเสนอให้มีการใช้ประโยชน์ในที่อื่นอย่างเหมาะสม นอกเหนือจากการบังคับให้ทำแต่การเกษตร แต่หลังการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยปล้นชัยชนะจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ที่นั่ง ส.ส.เป็นอันดับ 1 ไป และเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งตนที่อยู่พรรคพลังประชารัฐขณะนั้น ก็ร่วมเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไปด้วย แต่ผ่านมา 4 ปี ในรัฐบาลประยุทธ์ นโยบายที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะ ส.ป.ก.ที่ดินทองคำ ที่ตนเสนอ กลับไม่ได้รับการนำไปสู่การปฏิบัติเลย

“เหตุผลสำคัญที่ผมอยู่ พรรคพลังประชารัฐ ต่อไม่ได้ เพราะเขาไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ประชาชน ไม่เพียงเท่านั้น 8 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองลำบาก ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จึงต้องการเปลี่ยน และพี่น้องประชาชนก็บอกผมว่า ต้องไปอยู่พรรคอื่น พรรคไหนก็ได้ที่ไม่ใช่พรรครัฐบาลที่แล้ว อีกทั้งยังโดนลูกบังเกิดเกล้า (นายคชาภา) บังคับให้มาอยู่กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็ให้เกียรติผม มอบหมายให้ดูแลภาคกลาง และภาคตะวันออก” นายสุชาติ ระบุ


นายสุชาติ กล่าวต่อว่า วันที่ 14 พ.ค. 66 หากพี่น้องประชาชนชาวแปดริ้วเลือกพรรคเพื่อไทย อย่างถล่มทลาย จะทำให้ชาวแปดริ้วมี ส.ส.ถึง 7 คน คือ ส.ส.เขตทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก 3 คน คือ ตน, นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายสมชัย อัศวชัยโสภณ หรือ เฮียเน้า ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในลำดับที่ได้เป็น ส.ส.แน่นอน หากเป็นไปตามนี้ จ.ฉะเชิงเทรา มี ส.ส. 7 คนจริง ปัญหาของพี่น้องประชาชนจะได้รับการแก้ไข ความเจริญจะดียิ่งๆ ขึ้น เศรษฐกิจบ้านเราดีแน่ๆ จากนโยบายของพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงปัญหาที่ดิน สปก. และปัญหาช้างป่า ที่เป็นปัญหาสำคัญของ จ.ฉะเชิงเทรา และพื้นที่ใกล้เคียง ก็จะได้รับการแก้ไขด้วย

“ปัญหาช้างป่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ผมรับปากไว้เลย 2 ปี แก้ไขได้แน่นอน การเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องช่วยกันทำให้พรรคเพื่อไทยชนะแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเข้าไปเป็นรัฐบาล โดยไม่ต้องกลัว ส.ว. เพราะทุกพรรคการเมืองอยากเป็นรัฐบาลจะมารวมกับเรา” นายสุชาติ ระบุ.














กำลังโหลดความคิดเห็น