“ตั๊น จิตภัสร์” ร่วมลงเคาะประตูบ้านหาเสียงเมืองตรัง ช่วย “สุณัฐชา-กาญจน์” ร่วมสร้างผู้แทนฯคนรุ่นใหม่ ผลักดัน จ.ตรัง สู่เมืองท่องเที่ยวชุมชน
วันที่ 28 เม.ย. 2566 น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะผู้สมัคร ส.ส แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่หาเสียงให้กับ น.ส สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 3 และ นายกาญจน์ ตั้งปอง ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 พรรค ปชป.ในงานกีฬาสีเทศบาลทุ่งยาว อ.ปะเหลียง และโรงเรียนวิเชียรมาตุ 2 อ.ย่านตาขาว โดยมีพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับ และถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก โดย น.ส.จิตภัสร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ผู้สมัคร 2 คน มีความผูกพันในพื้นที่ อีกทั้งยังจับได้หมายเลขเดียวกัน คือ เบอร์ 2 จึงขอเชิญชวนให้ชาวตรัง เลือกคนทำงาน โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด น.ส.สุณัฐชา อยู่เคียงข้างพ่อแม่พี่น้อง ดูแลครอบครัวเปราะบาง ผู้กักตัว ผลักดันวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ชาวตรัง และเป็นผู้รับผิดชอบ โครงการรับคนตรังกลับมารักษาโควิดที่บ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ในกรุงเทพฯที่ขาดแคลนเตียงรักษา อีกทั้งยังร่วมกิจกรรมกับ อสม. อย่างต่อเนื่อง ส่วน นายกาญจน์ ตั้งปอง เคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกันตัง ทำงานในพื้นที่จนได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นอันดับ 1 อีกทั้งยังเป็นลูกชายของนายอำเภอวิสิฐ ตั้งปอง อดีตนายอำเภอย่านตาขาว, กันตัง, สิเกา ทำให้นายกาญจน์เติบโตมาในพื้นที่ ใกล้ชิด และผูกพันกับพี่น้องประชาชนตั้งแต่เด็กจนโต
“ถึงแม้ทุกสำนักจะออกมาว่า 2 เขตนี้ มีคะแนนนำ แต่ก็ไม่ประมาท ทั้ง 2 ยังปฏิบัติภารกิจเคาะประตูบ้านแนะนำตัว รับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่อย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้าย โดยในวันพรุ่งนี้ (เสาร์ 29 เม.ย) จะลงพื้นที่ ตลาดสดย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว พร้อมด้วย นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง” น.ส.จิตภัสร์ กล่าว
ด้าน น.ส สุณัฐชา กล่าวว่า 2 เขตนี้ เป็นเขตที่เชื่อมต่อกัน ผู้สมัครทั้ง 2 ได้จึงจับมือพร้อมผลักดัน พัฒนาพื้นที่ 6 อำเภอ ในการแก้ปัญหาปากท้อง ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เมืองเก่า ในพื้นที่ย่านตาขาว, กันตัง, สิเกา, ท่าข้าม การกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวบ้านพื้นที่ เกาะลิบง เกาะมุกด์ เกาะสุกร อีกทั้งจะผลักดันสะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน เพื่อลดระยะทางและระยะเวลาในการเดินทางระหว่าง อ.ปะเหลียน หาดสำราญ กับ อ.กันตัง จาก 1 ชม. เหลือเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งปัญหาพืชเศรษฐกิจ ทั้งยางพารา, ปาล์มน้ำมัน ผ่านโครงการประกันรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ และพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านพืชเศรษฐกิจตัวอื่นควบคู่ เช่น พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่ตนเป็นผู้ผลักดัน GI จนสำเร็จแล้ว รวมไปถึงนโยบายดูแลชายฝั่งทะเล-ดูแลชาวประมงพื้นบ้าน นโยบายประชาธิปัตย์ รับ 100,000 บาททุกปี สนับสนุนประมงพาณิชย์ภายใต้ IUU ทั้งหมดนี้จึงมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน
ด้าน น.ส สุณัฐชา กล่าวว่า 2 เขตนี้ เป็นเขตที่เชื่อมต่อกัน ผู้สมัครทั้ง 2 ได้จึงจับมือพร้อมผลักดัน พัฒนาพื้นที่ 6 อำเภอ ในการแก้ปัญหาปากท้อง ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เมืองเก่า ในพื้นที่ย่านตาขาว, กันตัง, สิเกา, ท่าข้าม การกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวบ้านพื้นที่ เกาะลิบง เกาะมุกด์ เกาะสุกร อีกทั้งจะผลักดัน สะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน เพื่อลดระยะทางและระยะเวลาในการเดินทางระหว่าง อ.ปะเหลียน หาดสำราญ กับ อ.กันตัง จาก 1 ชม. เหลือเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งปัญหาพืชเศรษฐกิจ ทั้งยางพารา, ปาล์มน้ำมัน ผ่านโครงการประกันรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ และพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านพืชเศรษฐกิจตัวอื่นควบคู่ เช่น พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่ตนเป็นผู้ผลักดัน GI จนสำเร็จแล้ว รวมไปถึงนโยบายดูแลชายฝั่งทะเล-ดูแลชาวประมงพื้นบ้าน นโยบายประชาธิปัตย์ รับ 100,000 บาททุกปี สนับสนุนประมงพาณิชย์ภายใต้ IUU ทั้งหมดนี้จึงมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน
วันที่ 28 เม.ย. 2566 น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะผู้สมัคร ส.ส แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่หาเสียงให้กับ น.ส สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 3 และ นายกาญจน์ ตั้งปอง ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 พรรค ปชป.ในงานกีฬาสีเทศบาลทุ่งยาว อ.ปะเหลียง และโรงเรียนวิเชียรมาตุ 2 อ.ย่านตาขาว โดยมีพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับ และถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก โดย น.ส.จิตภัสร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ผู้สมัคร 2 คน มีความผูกพันในพื้นที่ อีกทั้งยังจับได้หมายเลขเดียวกัน คือ เบอร์ 2 จึงขอเชิญชวนให้ชาวตรัง เลือกคนทำงาน โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด น.ส.สุณัฐชา อยู่เคียงข้างพ่อแม่พี่น้อง ดูแลครอบครัวเปราะบาง ผู้กักตัว ผลักดันวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ชาวตรัง และเป็นผู้รับผิดชอบ โครงการรับคนตรังกลับมารักษาโควิดที่บ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ในกรุงเทพฯที่ขาดแคลนเตียงรักษา อีกทั้งยังร่วมกิจกรรมกับ อสม. อย่างต่อเนื่อง ส่วน นายกาญจน์ ตั้งปอง เคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกันตัง ทำงานในพื้นที่จนได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นอันดับ 1 อีกทั้งยังเป็นลูกชายของนายอำเภอวิสิฐ ตั้งปอง อดีตนายอำเภอย่านตาขาว, กันตัง, สิเกา ทำให้นายกาญจน์เติบโตมาในพื้นที่ ใกล้ชิด และผูกพันกับพี่น้องประชาชนตั้งแต่เด็กจนโต
“ถึงแม้ทุกสำนักจะออกมาว่า 2 เขตนี้ มีคะแนนนำ แต่ก็ไม่ประมาท ทั้ง 2 ยังปฏิบัติภารกิจเคาะประตูบ้านแนะนำตัว รับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่อย่างหนักในช่วงโค้งสุดท้าย โดยในวันพรุ่งนี้ (เสาร์ 29 เม.ย) จะลงพื้นที่ ตลาดสดย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว พร้อมด้วย นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง” น.ส.จิตภัสร์ กล่าว
ด้าน น.ส สุณัฐชา กล่าวว่า 2 เขตนี้ เป็นเขตที่เชื่อมต่อกัน ผู้สมัครทั้ง 2 ได้จึงจับมือพร้อมผลักดัน พัฒนาพื้นที่ 6 อำเภอ ในการแก้ปัญหาปากท้อง ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เมืองเก่า ในพื้นที่ย่านตาขาว, กันตัง, สิเกา, ท่าข้าม การกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวบ้านพื้นที่ เกาะลิบง เกาะมุกด์ เกาะสุกร อีกทั้งจะผลักดันสะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน เพื่อลดระยะทางและระยะเวลาในการเดินทางระหว่าง อ.ปะเหลียน หาดสำราญ กับ อ.กันตัง จาก 1 ชม. เหลือเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งปัญหาพืชเศรษฐกิจ ทั้งยางพารา, ปาล์มน้ำมัน ผ่านโครงการประกันรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ และพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านพืชเศรษฐกิจตัวอื่นควบคู่ เช่น พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่ตนเป็นผู้ผลักดัน GI จนสำเร็จแล้ว รวมไปถึงนโยบายดูแลชายฝั่งทะเล-ดูแลชาวประมงพื้นบ้าน นโยบายประชาธิปัตย์ รับ 100,000 บาททุกปี สนับสนุนประมงพาณิชย์ภายใต้ IUU ทั้งหมดนี้จึงมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน
ด้าน น.ส สุณัฐชา กล่าวว่า 2 เขตนี้ เป็นเขตที่เชื่อมต่อกัน ผู้สมัครทั้ง 2 ได้จึงจับมือพร้อมผลักดัน พัฒนาพื้นที่ 6 อำเภอ ในการแก้ปัญหาปากท้อง ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เมืองเก่า ในพื้นที่ย่านตาขาว, กันตัง, สิเกา, ท่าข้าม การกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวบ้านพื้นที่ เกาะลิบง เกาะมุกด์ เกาะสุกร อีกทั้งจะผลักดัน สะพานข้ามแม่น้ำปะเหลียน เพื่อลดระยะทางและระยะเวลาในการเดินทางระหว่าง อ.ปะเหลียน หาดสำราญ กับ อ.กันตัง จาก 1 ชม. เหลือเพียงไม่กี่นาที อีกทั้งปัญหาพืชเศรษฐกิจ ทั้งยางพารา, ปาล์มน้ำมัน ผ่านโครงการประกันรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ และพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านพืชเศรษฐกิจตัวอื่นควบคู่ เช่น พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน ที่ตนเป็นผู้ผลักดัน GI จนสำเร็จแล้ว รวมไปถึงนโยบายดูแลชายฝั่งทะเล-ดูแลชาวประมงพื้นบ้าน นโยบายประชาธิปัตย์ รับ 100,000 บาททุกปี สนับสนุนประมงพาณิชย์ภายใต้ IUU ทั้งหมดนี้จึงมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรคจะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน
