xs
xsm
sm
md
lg

“สืบพงษ์” เฮ ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนมติสภา ม.รามฯ ปลด พ้นตำแหน่งอธิการบดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่
“สืบพงษ์” เฮ ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนมติสภา ม.รามคำแหง ปลด พ้นตำแหน่งอธิการบดี ชี้มติไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เปิดโอกาสนำพยานหลักฐานชี้แจงก่อนลงมติ

วันนี้(28เม.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ปลด นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากการเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

คดีดังกล่าว นายสืบพงษ์ ยื่นฟ้อง สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง จำเลย ที่ 1 ศาสตราจารย์ สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง จำเลยที่ 2 และนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง จำเลยที่ 3 กรณีมีมติในการประชุมครั้งที่ 15/2564 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2565 ถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งนายสืบพงษ์ เห็นว่าได้รับความเสียหาย จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติดังกล่าว โดยระหว่างชนะคดีศาลได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนมติถอดถอนนายสืบพงษ์ของสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงครั้งที่ 15/2564 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.64 มีกรรมการสภามหาวิทยาลัยบางรายได้อภิปรายเห็นด้วยกับกรณีที่ นายสืบพงษ์ไม่เรียกประชุมสภามหาวิทยาลัยตามที่กรรมการฯ จำนวนไม่น้อยกว่า 7 คน มีหนังสือร้องขอและได้มีการตั้งคำถามเพื่อให้นายสืบพงษ์ชี้แจง ซึ่งก็ได้ชี้แจงต่อสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงถึงเหตุผลที่นายสืบพงษ์ ไม่เรียกประชุม

หลังจากนั้น ศ.สมบูรณ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมได้แจ้งให้สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ลงมติในสองประเด็น คือ ประเด็นที่หนึ่ง สภามหาลัยรามคำแหง จะปรึกษาหารือในเรื่องที่นายสืบพงษ์ชี้แจงต่อไปหรือไม่ ซึ่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้มีมติโดยเสียงข้างมากว่าจะประชุมปรึกษาหารือในเรื่องที่นายสืบพงษ์ ชี้แจงต่อไป และประเด็นที่สอง นายสืบพงษ์จะต้องออกไปจากห้องประชุมขณะที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงทำการพิจารณาในประเด็นที่หนึ่งหรือไม่ ซึ่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีมติโดยเสียงข้างมากว่า นายสืบพงษ์จะต้องออกไปจากห้องประชุมขณะที่ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำการพิจารณาในประเด็นที่หนึ่ง และเมื่อเสร็จสิ้นการลงมติของสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งสองประเด็นแล้ว นายสืบพงษ์ก็ได้ออกไปจากห้องประชุม หลังจากนั้น สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ทำการพิจารณาต่อไปจนกระทั่งมีการลงมติถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

จากข้อเท็จจริงดังกล่าว เห็นได้ว่า ขณะเริ่มประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงมิได้แจ้งให้นายสืบพงษ์ทราบเลยว่า จะมีการพิจารณาลงมติถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในวาระการประชุมนี้ คงมีก็แต่เพียงการอภิปรายและตั้งคำถามจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยบางราย เพื่อให้นายสืบพงษ์ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่เรียกประชุมสภามหาวิทยาลัยเท่านั้น ดังนั้น การชี้แจงของนายสืบพงษ์ จึงเป็นการตอบคำถามต่อสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามทางปกติของผู้เข้าร่วมประชุม โดยนายสืบพงษ์เองก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าตนจะต้องถูกพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงในวาระการประชุมนี้ จึงไม่มีโอกาสที่จะได้เตรียมพยานหลักฐานอย่างเต็มที่เพื่อโต้แย้ง

และเมื่อมติของสภามหาวิทยาลัยรามคําแหงที่ถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นคำสั่งทางปกครองอันมีผลให้ นายสืบพงษ์ต้องพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวเป็นการถาวรและเด็ดขาด การที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง มิได้แจ้งให้นายสืบพงษ์ ทราบข้อเท็จจริงและมีโอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานเสียก่อน จึงเป็นการมีมติโดยไม่ถูกต้องตามขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญตามที่มาตรา 30 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กำหนด มติของสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงในการประชุมครั้งที่ 15/2564 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2564 ที่ให้ถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีมติดังกล่าว คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ทั้งนี้ ให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาที่สั่งทุเลาการบังคับตามมติและคำสั่งที่ถอดถอนนายสืบพงษ์ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ภายหลังฟังคำพิพากษา นายสืบพงษ์ กล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีแรกที่ตนยื่นฟ้องศาลปกครอง และยังมีอีกที่ตนฟ้องสภา ม.รามฯ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง นอกจากนี้ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งในคดีที่ตนยื่นฟ้อง สภา ม.รามฯ และกรรมการสภาฯ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อีกคดี


กำลังโหลดความคิดเห็น