“อิทธิพร” มั่นใจ 5 ประสานต้านทุจริต ช่วยเลือกตั้งโปร่งใส แนะชุดเคลื่อนเร็วเก็บข้อมูลหลักฐานละเอียดเอาผิดได้แน่ วอน ปชช.เข้าร่วม ยาหอม 3 มาตรการจูงใจ ทั้งให้รางวัล-กันคุ้มครอง-กันเป็นพยาน
วันนี้ (28 เม.ย.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและการป้องกันปราบปรามการทุจริต ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม 2,113 คน ประกอบด้วย ผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวน 423 คน ชุดเคลื่อนที่เร็ว 400 ชุด ประจำ 400 เขตเลือกตั้ง จำนวน 1,239 คน ผู้บริหารกลุ่มภารกิจสืบสวน ไต่สวน วินิจฉัย และดำเนินคดีในศาลและชุดปฏิบัติการข่าว (ส่วนกลาง) 11 ชุด ชุดละ 3 คน จำนวน 66 คน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร จำนวน 77 คน รองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร จำนวน 77 คน และชุดปฏิบัติการข่าว (ส่วนจังหวัด) 77 ชุด ชุดละ 3 คน จำนวน 231 คน
นายอิทธิพร กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือมติ กกต. ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและการป้องกันปราบปรามการทุจริตแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วที่จะมาห้องปรามและหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความในการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
“เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อวางแผนปฏิบัติหน้าที่และลงพื้นที่ระหว่างผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดปฏิบัติการข่าวทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ตามที่กกต.มอบหมายภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และชอบด้วยกฎหมาย”
นายอิทธิพร กล่าวว่า อยากให้ชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบการกระทำความผิดให้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น บันทึกภาพทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว เสียง ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะการได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนและครบถ้วน จะทำให้การสรุปสำนวนเพื่อการวินิจฉัยเป็นไปได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ รวมทั้งเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ในการทำงานต้องอาศัยคนที่อยู่ในพื้นที่ตระเวนหา ติดตามตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ มีการหาข้อมูลในทางลับเช่น จากผู้ขับวินจักรยานยนต์ พ่อค้าแม้ค้าขายผลไม้ คนขายลูกชิ้นทอด ซึ่งจะมีความใกล้ชิดกับคนในพื้นที่
ประธานกกต. ยังเน้นการทำงานแบบ5ประสานต้านทุจริต ซึ่งประกอบด้วย ผู้ตรวจการเลือกตั้ง, ชุดเคลื่อนที่เร็ว, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ,ประชาชน และองค์กรเอกชน โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย
ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด ต้องมีความชำนาญในพื้นที่ ชุดเคลื่อนที่เร็วก็ต้องเชี่ยวชาญเส้นทางในพื้นที่และเข้าถึงสถานที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว ทั้งนี้แกนนำของ5ประสานต้านทุจริต สามารถติดต่อประสานความร่วมมือการทำงานกับระดับจังหวัดของสำนักงานกกต.ในทุกๆจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของแต่ละจังหวัดทำหน้าที่อยู่ นอกจากนี้ เห็นว่า
แกนนำ 5 ประสานต้านทุจริต ควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจับทุจริตโดยบอกให้ประชาชนทราบถึงปัจจัย 3 ประการ
1. การชี้เบาะแสการที่นำไปสู่การดำเนินคดีในขั้นสามารถลงโทษ ผู้กระทำคิดได้ก็มีสิทธิได้รับเงินรางวัล
2. ประชาชนที่ให้ข้อมูลการทุจริต กกต มีมาตรการคุ้มครองพยานดููแลอยู่ที่ผ่านมากกต.ให้การคุ้มครองพยานไปแล้วกว่า30 ราย
3. หากกระทำผิดไปแล้วกลับใจให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นำไปสู่การนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ กกต.จะพิจารณากันบุคคลนั้นไว้เป็นพยานได้ไม่ต้องรับความผิดในคดีที่ได้กระทำ ซึ่งที่ผ่านมา มีดำเนินการแล้ว 70 คน