หัวหน้า ปชป. ช่วยลูกพรรคหาเสียงเชียงใหม่ อวดทำงานหนักดันพืชผลเกษตรราคาดี ชูนโยบาย “เหนือเชื่อมโลก” พร้อมซอฟต์เพาเวอร์อัตลักษณ์ล้านนา ลั่นหากร่วม รบ.ดัน กม.อากาศสะอาดกู้วิกฤตฝุ่นพิษ
วันนี้ (27 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะ ร่วมกับผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายจักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ เบอร์ 7 เขต 2 นายกัมปนาท ธิสา เบอร์ 7 เขต 3 นายวิชิต กลิ่นทอง เบอร์ 7 เขต 4 นางสาวจิตพลอย จิตจักรวาลทอง เบอร์ 7 และเขต 5 ว่าที่ ร.ท.วิศธร เถาตระกูล เบอร์ 9 เดินหาเสียงที่ตลาดสามแยก และตลาดสันป่าข่อย อ.สันทราย พร้อมขึ้นรถแห่รอกาดหลวง อ.เมือง
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ที่มาภาคเหนือตอนบนด้วยความตั้งใจ และมาดูแลหลายรอบแล้ว เรื่องพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชน รวมถึงพืชผลการเกษตรต่างๆ ในฐานะ รมว.พาณิชย์ ปีนี้ถือว่าพืชผลการเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ซึ่งเป็นผลจากการทำงานหนักของตน ร่วมกับเกษตรกร และภาคเอกชน มาเที่ยวนี้ถือว่ามางานการเมือง ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยหาเสียงให้เขต 1 เขต 2 เขต 3 ตอนเย็นจะไปปราศรัยที่สนามกีฬา 700 ปี โดยขอให้ ช่วยพิจารณาผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทิ้งชาวเชียงใหม่ ไม่ว่าเราจะได้ผู้แทนเขตหรือไม่ก็ตาม เที่ยวนี้ตนหวังว่านอกจากคะแนนของผู้สมัครเขตแล้ว ในส่วนของคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ก็จะได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวเชียงใหม่จำนวนไม่น้อย พลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์ จะมีส่วนสำคัญที่จะเป็นกำลังใจให้พวกตนต่อไป
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงนโยบายที่จะทำให้ปักธงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า จากการประชุมผู้สมัครเขตในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด ทุกคนก็เห็นว่านโยบายทั้ง 16 นโยบาย ของประชาธิปัตย์โดนใจทุกข้อ และช่วยคลี่คลายปัญหาให้ชาวเชียงใหม่ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย “เหนือเชื่อมโลก” โดยเชียงใหม่จะเป็นแกนกลางสำคัญของภาคเหนือตอนบนที่จะเชื่อมโลกทั้งทางคมนาคม การเกษตร การส่งออก การค้าชายแดน รวมไปถึงซอฟต์พาวเวอร์ ที่เป็นอัตลักษณ์สำคัญของล้านนา ในการช่วยส่งเสริมรายได้จากการส่งออก และรายได้จากการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศได้
“หากประชาธิปัตย์เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เราจะสนับสนุนให้เทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นมหานครเชียงใหม่ เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่คุกคามชาวเหนือมาเป็นเวลาหลายเดือน และยังไม่หมดสิ้นไป อย่างน้อยการผลักดันให้มี พ.ร.บ.อากาศสะอาด ก็จะแก้ปัญหาได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังจะต้องเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่อาจเป็นต้นตอที่ทำให้ฝุ่นพิษคุกคามภาคเหนือ และในวงประชุมอาเซียนก็จำเป็นต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว