สมาชิกองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลานนับร้อยสวมเสื้อเหลืองยินดีให้ทางราชการที่เกี่ยวข้องสอบสวน ยืนยันกับว่ามีตัวตนจริง หลังจากไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรที่ปฎิบัติตัวไม่เหมาะสมในหลายเรื่อง ด้านนายกเทศมนตรีตำบลบางคลาน พร้อมประธานสภาเทศบาลยันชาวบ้านลงมติไล่เจ้าอาวาสและพวกพ้นวัดพร้อมทั้งให้แต่งตั้งเจ้าอาวาสองค์ใหม่ที่ชาวบ้านมีส่วนร่วมและไม่สร้างความแตกแยก
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จ.พิจิตร นางสาวปัญญชลี เมืองจันทร์ ปลัดอำเภอโพทะเล ได้รับมอบหมายจาก นายอำเภอโพทะเล เป็นประธานในการแจ้งให้กลุ่มองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน (วัดหลวงพ่อเงิน) ที่มี นางสาวประภานันท์ หรือสุภา อยู่ยืด เป็นประธานและสมาชิกประมาณ 100 คน เข้าร่วมให้ข้อมูลและยืนยันว่ามีตัวตนและวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกลุ่มฯดังกล่าว มีพันตำรวจโทพิเชษฐ์ หร่ายพันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางคลาน เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำชาวบ้านด้วย นางประภานันท์หรือสุภา ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดบางคลาน และสมาชิกได้ให้ปากคำและหลักฐานพร้อมยืนยันว่าองค์กรฯมีตัวตนและจริงและจัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 42 และ 43 และมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ที่จะร่วมกันส่งเสริมพระพุทธศาสนาร่วมกันพัฒนาวัดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและร่วมกันปกป้องรักษาตรวจสอบทรัพย์สินทั้งวัตถุโบราณของวัดเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป
สำหรับการตรวจสอบยืนยันตัวตนขององค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน ว่ามีตัวตนจริงหรือไม่เกิดขึ้นภายหลังที่ประธานชุมชนรักษ์วัดบางคลานพร้อมสมาชิกและชาวบ้านตำบลบางคลานได้เดินทางไปยื่นหนังสือให้ นายกรัฐมนตรีตรวจสอบพฤติกรรมของพระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา จำนวน 4 เรื่องได้แก่ 1.เรื่องฉ้อโกงเงินและยักยอกของวัดถ้ำชาละวัน ปี 2556 และ 2557 จำนวน 350,000 บาทและ 5 แสนบาท โดยมีอดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำชาละวันมอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดี 2. เรื่องฉ้อโกงและยักยอกเงินของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3.เรื่องฉ้อโกงและหลอกลวงประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการจำหน่ายวัตถุมงคลในปี 2553 และปี 2558 และมีการทอดผ้าป่าและกฐินใน มจร.หลายปีติดต่อกันวงเงินนับร้อยล้านบาทแต่ในบัญชีมีแค่เงิน 10 ล้านบาทในการก่อตั้ง มจร.และ 4.เป็นเรื่องเสพเมถุนถือว่าปาราชิกขาดจากความเป็นพระภิกษุ ปรากฎร่องรอยหลักฐาน มีบุตรชาย 1 คนกับ นางสาว ต.(นามสมมุติ) เมื่อปี พ.ศ.2551 และปี 2559 มีบุตรชายกับนางสาว ก.(นามสมมุติ) อีก 1 คน โดยหากไม่เป็นความจริง นางสาวประภานันท์หรือสุภา ยินดีให้ฟ้องร้องดำเนินคดีโดยขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอ
ด้าน พันตำรวจโทพิเชษฐ์ หร่ายพันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลบางคลานเปิดเผยว่าปัญหาของวัดบางคลานเปิดมาตั้งแต่ปี 2557 มีการปลดอดีตเจ้าอาวาสโดยชาวบ้านเห็นว่าอดีตเจ้าอาวาสถูกรังแกก็เลยออกปกป้องอดีตเจ้าอาวาส จากนั้นมีการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสหรือเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดปัญหามาถึงปัจจุบัน และหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ทำประชามติมีมติไม่รับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
ส่วน นายพิชัย จุลพันธุ์ ประธานสภาเทศบาลตำบลบางคลานกล่าวว่าหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาชาวบ้านตำบลบางคลานผู้นำท้องถิ่น เกือบหนึ่งพันคนได้ทำประชามติไม่รับ พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลานและพวก เนื่องจากไม่มีความศรัทธา อยากให้ทางคณะสงฆ์ผู้ใหญ่ลงมาแก้ปัญหา พร้อมแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ที่ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการแต่งตั้งเข้ามาบริหารวัดบางคลาน
บรรยากาศภายในวัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน ไม่มีการปิดประตูวัดแต่อย่างใด ยังเปิดให้พุทธศาสนิกเข้ามากราบนมัสการรูปปั้นหลวงพ่อเงินในวิหาร ได้ตามปกติ มี เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยตามปกติ
สำหรับสรุปผลการทำประชามติ โดยทําการประชามติจาก ผู้นําท้องถิ่น จํานวน 13 ราย และประชาชนในตําบลบางคลาน รวมทั้งสิ้น 905 ราย เมื่อวันที่ 14 – 19 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดสรุปเป็นหัวข้อ ดังนี้ 1การแต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากร มาเป็นเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม (บางคลาน)ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ผลการทำประชามติไม่เห็นด้วยทั้งหมด จํานวน 905 คน 2. ตามที่พระครูพิสุทธิวรากร และไวยาวัจกรสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลในวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) จํานวนหลายรุ่น มีการประชุมชี้แจงให้ชาวตําบลบางคลานทราบเรื่องหรือไม่ ผลการทำมติไม่ทราบเรื่อง ทั้งหมด จํานวน 905 คน 3.การแต่งตั้งนายพร ปั้นเพ็ง นายอํานาจ พรายพร นายกมล โฉมเกิด และนายเสน่ห์ ลือมงคล เป็น ไวยาวัจกรวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) เห็นด้วยหรือไม่ ผลการทำประชามติ ไม่เห็นด้วยทั้งหมด จํานวน 905 คน 4.การนําเงินของวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) จํานวน 65 ล้านบาทมาจัดตั้งมูลนิธิหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ผลการทำประชามติไม่เห็นด้วยทั้งหมด จํานวน 905 คน 5.การบริหารงานการเงินของวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) มีความโปร่งใสหรือไม่ ผลการทำประชามติ เห็นว่าไม่โปร่งใส จํานวนทั้งหมด 905 คน 6.การซื้อที่ดินเพิ่มเติมของวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) จํานวน 4 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา ในราคา 4 ล้าน 5 แสนบาท เห็นด้วยหรือไม่ ผลการทำประชามติไม่เห็นด้วยทั้งหมด จํานวน 905 คน 7. การซื้อที่ดินเพิ่มเติมของวัดหิรัญญาราม (บางคลาน) จํานวน 4 ไร่ 1 งาน 90 ตารางวา ในราคา 4 ล้าน 5 แสนบาท เห็นว่าราคาเหมาะสมหรือไม่ ผลการทำประชามติเห็นว่าไม่เหมาะสม จํานวน 905 คน 8. การขับไล่พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม กับพวกออกจากตําแหน่ง เห็นด้วยหรือไม่ ผลการทำประชามติ เห็นด้วย จํานวน 905 คน
สำหรับพระครูพิสุทธิวรากร อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดบางคลานกับพวก ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจาก พระราชสิทธิเวที ให้เข้ามาเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสได้ปฎิบัติตัวเป็นปฏิปักษ์กับชาวบ้านตำบลบางคลาน มาตั้งแต่ ปี 2557 การแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลาน โดยพระครูโสภณธรรมวิสุทธิ์ เจ้าคณะตำบลท่านั่ง บางคลาน โดยไม่ชอบด้วย พรบ.คณะสงฆ์ และกฎมหาเถรสมาคม การแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส มีการข่มขู่ ไม่มีการประชุมคณะสงฆ์จริง และไม่มีสอบถามชาวบ้านเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ พฤติกรรมของพระครูพิสุทธิวรากรพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล เลี้ยงมือปืนไว้ข่มขู่ ทำร้ายชาวบ้าน ตัวอย่างมีคดียิงชาวบ้านในวัดบางคลาน ถูกศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ตัดสินให้จำคุก ขณะนี้อยู่ชั้นศาลฎีกา ที่จะมีตัดสินเร็วๆนี้ นอกจากนี้ พระครูพิสุทธิวรากรกับพวกยังกล่าวหากลั่นแกล้งฟ้องดำเนินคดีกับชาวบ้านประสงค์ให้ชาวบ้านติดคุก เพื่อไม่ให้ชาวบ้านขัดขวางการหาประโยชน์ในวัดบางคลาน พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางพระกับพวก นำเงินวัดที่ชาวบ้านและอดีตเจ้าอาวาสสะสมเงินบริจาคฝากบัญชีวัดบางคลาน จำนวน 106 ล้านบาท หากรวมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 130 ล้านบาท ไปตั้งแต่ ปี 2557 - ปัจจุบัน โดยไม่ชี้แจงแต่อย่างใด พระครูพิสุทธิวรากรเจ้าอาวาสวัดบางคลานกับพวก ได้จัดสร้างวัตถุมงคลจำหน่ายหลายครั้งเป็นเงินหลายร้อยล้านบาท มีการร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ และช่องก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาพระครูพิสุทธิวรากรเจ้าอาวาสวัดบางคลานกับพวก ได้ทำการขนพระมาไว้ที่กุฎิเจ้าอาวาสจำนวนมาก ทั้งยังไม่ผ่านพิธีปลุกเสก หวังจำหน่ายในเทศกาลสงกรานต์เป็นเงินนับล้านบาท และยัง มีเรื่องทุจริตอีกมาก กำลังจะถูกดำเนินคดีทั้งแพ่ง ทั้งอาญา ชาวบ้านบางคลานไม่ได้มีผลประโยชน์หากินกับวัด ไม่เหมือนพระครูพิสิทธิวรากรกับพวก ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าชาวบ้านบางคลานได้เก็บรักษาเงินบริจาคไว้กว่า 130 ล้านบาท