xs
xsm
sm
md
lg

ชูวิทย์ vs ทนายตั้ม ลามถึง “บิ๊กโจ๊ก” แต่เจอย้อน อย่างน้อยไปเจอใครก็ไม่อัดคลิปไว้แบล็กเมล์ ** “ลุงตู่”เปรียบตัวเองเป็นกัปตัน มากประสบการณ์ จะพาเครื่องบินประเทศไทย และผู้โดยสาร ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ชูวิทย์ vs ทนายตั้ม ลามถึง “บิ๊กโจ๊ก” แต่เจอย้อน อย่างน้อยไปเจอใครก็ไม่อัดคลิปไว้แบล็กเมล์


เคลื่อนไหวปะทะเดือด ตามแนวรบโซเชียลฯ อย่างต่อเนื่อง ระหว่าง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” จอมแฉ อดีตเจ้าของธุรกิจอาบอบนวด กับ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

อย่างที่เห็นกันวันก่อน “ชูวิทย์” ชกใต้เข็มขัด ไปดูดคลิปเก่าเมื่อครั้ง “ทนายตั้มและลูกความ” อยู่ในสนามบิน จอมแฉแหกปากร้องฟ้องชาวเน็ตที่พร้อมเชื่อว่า “ทนายตั้ม” นั้นโคตร VVIP ขนาดตำรวจท่องเที่ยวยังมาตั้งแถวรอให้บริการ ราวคนสำคัญ

เมื่อ “ชูวิทย์” เจตนาร้ายมาท้าทาย วันเดียวกัน “ทนายตั้ม” ได้โพสต์คลิปชูวิทย์ฝากลูกชายเข้าเป็นทหาร กับทหารยศใหญ่ ซึ่งนัยยะต้องการฟาดกลับว่า “คนธรรมดาเดินดินมากเลยนะครับ ไม่เคยเส้น ไม่เคยใช้สิทธิพิเศษใดๆ ที่สนามบิน แต่อวย ม.44 และขอฝากลูกชายเข้าเป็นทหารกับทหารยศใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ผมสนใจคือ กล้องมุมนี้ คือพี่ต้องถ่ายเอง ไปขอเขาช่วย แต่กลับแอบถ่ายไว้ เป็นคนยังไงกันครับเนี่ย ผมนี่อยากจะแหม่ ส่วนเรื่องตรวจเส้นทางการเงิน ตามสบายครับ ผมไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับบ่อนการพนัน พันล้านเปอร์เซ็นต์ แล้วพี่ล่ะ? มหาโจรน่ะเป็นได้ แต่ก็ต้องจริงใจกับคนที่พี่เข้าหาบ้างก็ดีนะครับพี่”

ต่อมา “ชูวิทย์” ออกมาเคลื่อนไหว โดยโพสต์ข้อความในทำนองเย้ยหยันว่า “โถ.. หนูตั้ม เอาคลิปเก่าขนาด 10 ปีก่อนมาแฉ สื่อเขารู้ เอาไปลงกันทั่วแล้ว คลิปนี้ออกมาตั้งแต่ผมเล่นงานไอ้ซัวใหม่ๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นความลับ

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
จอมแถ อ้างว่า ถ่ายมาตั้งแต่ปฏิวัติแรกๆ ตอนถูกเรียกไปปรับทัศนคติ ใครจะรู้ว่าคนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่ที่ผมรักเคารพ แล้วที่ฝากลูกผม ก็ได้เป็นได้แค่ทหารเกณฑ์ สู้รบกับมดในค่าย

นึกว่ามีไม้เด็ดกว่านี้ อุตสาห์รอ เห็นหายหัวไปนาน หากจะแฉผมเอาที่สะใจกว่านี้หน่อยเถอะ ถึงจะเหมาะกับมหาโจรอย่างผม คลิปก็มาจาก “เปา” เด็กที่เอามาเลี้ยงแล้วทรยศ กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ยักยอกเงินไป แล้วไปเป็นลูกน้องไอ้ซัว และยังบอกว่า นี่ขนาดทนายธรรมดาเด็กๆ เพียงแต่เป็นเด็กในคาถาของ “เทพ จ.” เรื่องนี้มันใหญ่ เพราะเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำ

ล่าสุด “ชูวิทย์” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยครั้งนี้ พยายามโยง “เทพ จ.” กับ “ทนายตั้ม” ระบุว่า ด้วยอายุราชการที่ยังเหลืออยู่อีกยาวของ “รองโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผ่านร้อนผ่านหนาวในอาชีพตำรวจมามาก ตกระกำลำบากถูกเด้งไปประจำสำนักนายกฯ ก็เคยมาแล้ว แต่กลับมาเป็น รอง ผบ.ตร. ได้สมญานาม “เทพ จ.” เพราะจ่อตำแหน่ง “ผู้นำองค์กรตำรวจ” เหลืออายุราชการอีก 8 ปี

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สิ่งที่ต้องระวังในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. คือ “คนใกล้ตัว” ที่มักจะทำให้ตกอับกับแสง เห็นมานักต่อนักในอดีต ในรูปเห็นอยู่ว่า “ทนายตั้ม” เด็กวานซืน สนิทสนมกับ “รองโจ๊ก” แค่ไหน เอาไปใช้หากินได้อีกเยอะ อย่างน้อยสร้างเครดิตอวดลูกความให้เชื่อถือ ทนายความกับตำรวจเหมือน “คอหอยกับลูกกระเดือก”

คดีไหนอาศัยใบบุญตำรวจใหญ่จะเสียรูปคดี สำนวนรั่ว เคลียร์กันได้ ก็ขนาดใช้ตำรวจมาเข็นกระเป๋า ขับรถไปจอดให้ยังทำได้ ด้วยอิทธิพลคนใกล้ชิด อาศัยแสงของ “บิ๊กโจ๊ก” กลายเป็น “เทพคนสนิท” อีกคนจนตำรวจทั้งกรมเกรงใจ

ษิทรา เบี้ยบังเกิด
คนจะเป็น ผบ.ตร. ควรวางตัวให้ดี ไม่ให้คนใกล้ชิดแอบอ้างไปหากินให้เสียยี่ห้อ ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ทำงานให้องค์กรตำรวจเต็มที่ ไม่ใช่ไปใกล้ชิดสนิทสนมกับคนทำอาชีพ “ทนาย” ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดีความให้เสียความเป็นกลาง

เห็นภาพแบบนี้ หนักใจแทน ไม่สงสัยแล้วว่าทำไม “เด็กวานซืน” อย่าง “ทนายตั้ม”จึงคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ เพราะมีผู้ใหญ่ระดับเทพปกป้องคุ้มกะลาหัวนี่เอง ธรรมเนียมไทยๆ เรื่องของสายสัมพันธ์รู้จักกันไม่ผิด แต่การขอการเคลียร์ก็เป็นเรื่องปกติอีกเหมือนกัน แม้แต่ฝากตำแหน่งตำรวจ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

คบแค่ รอง ผบ.ตร.ยังรวยน่าสงสัยขนาดนี้ หากขึ้นเป็นผบ.ตร. จะรวยขนาดไหน? คงได้เป็น “เทพ ต.” อีกคน หน้าบ้านมีตำรวจเฝ้าเต็มไปหมด หัวกระไดไม่แห้ง จึงขอสะกิดเตือน “บิ๊กโจ๊ก” ตำรวจด้วยกัน กลิ่นมันไว ทิ่มได้เป็นทิ่ม ก็รู้อยู่ว่ามีคนจองกฐินยาว

คนหลงตัวเอง รวยแบบมีเงื่อนงำ ยังเอามาใกล้ชิดแบบนี้ จะทำให้เสียเอาง่ายๆ นี่เป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวจะไม่ได้ขึ้นเพราะเด็กวานซืน น้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ

เรียกว่า จอมแถ อวดเก่งสอนมวย รอง ผบ.ตร. ราวกับตนเองเป็นคนไม่หลงตัวเอง!!

ขณะที่ “ทนายตั้ม” แหวกความเห็น “ติ่งชูวิทย์” เข้าไปโพสต์ในบ้านของจอมแถ ฟาดกลับแบบให้จอมแถรู้ตัว... “อย่างน้อยผมไปเจอ หรือทานข้าวกับใคร ก็มั่นใจได้ว่าไม่อัดคลิปไว้แบล็กเมล์แน่นอนครับ”

ประดาบก็เลือดเดือดแบบนี้ รับประกันว่าศึกระหว่าง “ชูวิทย์ vs ทนายตั้ม” น่าจะยังมีหลายยก คนชอบความมันส์ ต้องติดตามกันต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
** “ลุงตู่”เปรียบตัวเองเป็นกัปตัน มากประสบการณ์ จะพาเครื่องบินประเทศไทย และผู้โดยสาร ไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

เหลืออีก 20 วัน ก็จะได้หย่อนบัตรเลือกตั้งกันแล้ว ช่วงนี้พรรคการเมืองจึงต้องเร่งโหมหาเสียงกันขนานใหญ่ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ นอกจากจะปล่อยคลิปหาเสียงถึงผลงานที่ผ่านมากันรัวๆแล้ว ตัว“ลุงตู่”เอง ก็มีคิวลงพื้นที่ถี่ยิบ

วันวานก็ลาราชการ ไป จ.อุดรธานี พื้นที่ที่ว่ากันว่าเป็น “เมืองหลวงของคนเสื้อแดง” แต่ตอนนี้อาจจะเป็นอดีตไปแล้วก็ได้ เพราะเมื่อลุงตู่ไปถึง ก็มีแต่เสียง ลุงตู้สู้ๆ... ลุงตู่อยู่ต่อ...ลุงตู่ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ...

ตามสไตล์ของ“ลุงตู่” ไม่ว่าไปที่ไหน อันดับแรก ต้องไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ไปอุดรฯเที่ยวนี้ เมื่อไปถึง “ลุงตู่”ก็ตรงดิ่งไปที่วัดอัมพวันวิทยาราม ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เพื่อกราบสักการะ“หลวงปู่แก้ว”และกราบนมัสการ เจ้าเอาวาสวัดอัมพวันฯ ซึ่งพระคุณเจ้าได้ผูกสายสิญจน์ และมอบพระหลวงปู่แก้วให้บูชา ซึ่งชาวบ้านตะโกนว่า ใครได้หลวงปูแก้วไปบูชา จะได้เป็นนายกฯแน่นอน ...

จากนั้นก็ได้พบปะประชาชนที่มาต้อนรับ ...เมื่อไปอีสาน “ลุงตู่”ก็ต้องเว้าลาว ทักทายชาวบ้าน ...“สบายดีบ่ คิดฮอดหลายๆ เด้อ” พร้อมกับบอกว่าตนเองเป็นลูกอีสานขนานแท้ เกิดในค่ายทหารที่โครราช พ่อเป็นทหาร แม่เป็นครู เป็นคนชัยภูมิ ตนเองไปเรียนกรุงเทพฯ ที่โรงเรียนเตรียมทหารนายร้อย เป็นนายทหาร เป็นผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายกฯ ตอนนี้ก็มาเป็นประธานกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครรวมไทยสร้างชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เมื่อได้มาเยือนถิ่นอีสาน ก็เหมือนได้กลับมาบ้านเกิด แม้ได้เป็นนายกฯ ก็ไม่ลืมบ้านเกิด คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไรให้ชาวอีสานมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาก็ได้แก้ปัญหา ทำการพัฒนาไปมากมาย ตอนนี้ก็ยังทำอยู่ และที่ต้องขอทำต่อก็เพราะยังมีภารกิจที่ยังคั่งค้าง

จากนั้น “ลุงตู่” ก็ร่ายยาวถึงผลงานในช่วง 8 ปีที่เป็นรัฐบาล ทั้งแก้ปัญหาโควิด ก่อสร้างถนนหนทาง แก้ปัญหายาเสพติด ทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ติดต่อกับต่างประเทศเพื่อค้าขาย หารายได้ รวมทั้งการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับซาอุดีอาระเบีย

... วันนี้ถ้าเปรียบประเทศไทย เหมือนเครื่องบินลำหนึ่ง ลักษณะกลางเก่ากลางใหม่ ที่ปลอดภัย สำคัญที่นักบินมี 2 คน คนหนึ่งเป็นกัปตัน อีกคนเป็นผู้ช่วยนักบิน ดังนั้นคนเป็นกัปตันต้องเก่งกว่า จึงขอถามชาวกุดจับว่า อยากจะขึ้นเครื่องบินที่มีกัปตันมากประสบการณ์ หรือจะเอาวัยรุ่นมาขับเครื่องบิน... วันนี้ผมอายุ 70 ปีแล้ว ถ้าเป็นนักบินก็แก่แล้ว แต่ยังมีสมรรถภาพ เป็นนักบินที่มีประสบการณ์ เวลาเกิดอากาศวิกฤต นักบินที่มีประสบการณ์จะช่วยนำพาเครื่องบินให้ปลอดภัยได้ ถ้าเป็นเด็กอาจจะตกใจ แต่ผมมีประสบการณ์ขับเครื่องบินลำนี้ได้ วันนี้จึงต้องมาขอร้องด้วยความจริงใจต่อกัน พร้อมเตือนประชาชน ในช่วงหาเสียงมีการเสนอว่าจะให้ มากมาย ขอให้พิจารณาด้วยว่า หากเป็นรัฐบาลแล้วจะให้ได้อย่างนั้นหรือไม่ หากทำไม่ได้ประชาชนจะว่าอย่างไร เพราะเขาไม่พูดถึง วิธีการหาเงิน พูดแต่เรื่องการให้เงินเพียงอย่างเดียว...

จากนั้น “ลุงตู่” ได้ไปปราศรัยกับประชาชนอีก 2 แห่ง คือที่ สวนสาธารณะสวนไผ่ ต.หนองเม็ด อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และที่ โรงแรมสยามแกรนด์ อ.เมืองอุดรธานี

ทั้งสองแห่ง “ลุงตู่” ย้ำกับคนอุดรฯว่า ตนเองนั้นเปรียบเสมือนกัปตันเครื่องบิน ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเพราะบินมาแล้ว 8 ปี ฝ่าสถานการณ์ที่มีสภาพอากาศแปรปรวนมาแล้ว รับรองพาผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลอดภัย ไม่โหม่งโลกแน่นอน

ผมสมัครใจเป็นนักบินเบอร์หนึ่ง ให้อีกรอบหนึ่ง สุดแล้วแต่ท่านว่าจะเลือกหรือไม่เลือก!!

จากนั้น “ลุงตู่” ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างมาก เขารู้ว่าประเทศชาติควรจะอยู่ตรงไหน หลังจากนี้เราก็มีหน้าที่ทำตามที่ประชาชนได้คาดหวังไว้ ถ้าได้รับโอกาส

ก่อนกลับ “ลุงตู่” ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ว่าคนเป็นนักบิน ต้องไม่อ่อนแอ พร้อมทำท่าเบ่งกล้ามโชว์


กำลังโหลดความคิดเห็น