xs
xsm
sm
md
lg

เจาะเกมเลือกตั้ง 2566 : "เพื่อไทย" วัวพันหลัก “เศรษฐา” แป้ก นโยบายแจกเงินดิจิตอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เจาะเกมเลือกตั้ง" เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันที่ 24 เมษายน 2566 นำเสนอตอน "เพื่อไทย" วัวพันหลัก “เศรษฐา” แป้ก นโยบายแจกเงินดิจิตอล



ตั้งใจจะใช้นโยบาย แจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล “คิดใหญ่-ทำเป็น” เพื่อเปิดตัว “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์เบอร์ต้นของประเทศ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

โดยใช้นโยบายที่ทันสมัย มีวิสัยทัศน์ เหมือนต้องการเป็นคู่เทียบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ดูเก่าคร่ำครึ

แต่กลับ “แป้ก” ไม่เป็นท่า ถูกคุมกำเนิดตั้งแต่เปิดนโยบาย ระดับนักธุรกิจหมื่นล้าน ที่พรรคเพื่อไทยโพนทะนานักหนาว่า ประสบความสำเร็จ เหมาะแก่การบริหารประเทศยุคนี้กลับ “ตายน้ำตื้น” ด้วยเรื่องแจกเงินดิจิตอล

แม้พรรคเพื่อไทยจะแจกแจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปแล้ว แต่คำแจกแจงมีข้อโต้แย้งแทบจะทุกข้อ โดยพรรคเพื่อไทย ระบุว่า จะใช้งบประมาณจากการบริหารระบบงบประมาณและภาษี

ประกอบด้วย 1. ประมาณการรายได้รัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 : 260,000 ล้านบาท 2.ภาษีที่ได้มาจากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย : 100,000 ล้านบาท 3.การบริหารจัดการงบประมาณ 110,000 ล้านบาท และ 4.การบริหารงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 90,000 ล้านบาท
.
ในข้อ 2 เรื่องภาษีที่ได้มาจากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบายนั้น พรรคเพื่อไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ว่าเหมือนคนไม่มีประสบการณ์ในการทำงานคิด เพราะตัวเลขประมาณการรายได้ของรัฐ 2.6 แสนล้านบาทนั้น ตัวเลขการจัดเก็บภาษีดังกล่าวถูกรวมอยู่ในกรอบงบประมาณปี 2567 เรียบร้อยแล้ว ไม่มีเงินเหลือไว้ใช้กับนโยบายดังกล่าวได้

หรือข้อ 3 ที่ระบุว่า จะมีการตัดงบสวัสดิการซ้ำซ้อนจำนวน 9 หมื่นล้านบาท แต่ไม่ได้มีการอธิบายกับ กกต.เลยว่า จะตัดจากงบประมาณส่วนไหน และในข้อเท็จจริงสามารถตัดได้หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่า การตัดงบประมาณแต่ละส่วนอาจจะไปกระทบกับอีกส่วน และต้องอธิบายให้ได้ว่า ซ้ำซ้อนตรงไหน ที่สำคัญ แต่ละกระทรวงคงไม่ยอมให้ตัดง่ายๆ และตัดแล้วไม่ชัวร์ว่า จะเพียงพอต่อการทำงบประมาณหรือไม่
.
วิธีการนี้ไม่มีทางทำได้เลย ถ้าไม่“กู้เงิน” ที่พรรคเพื่อไทยชอบเย้ยหยัน “บิ๊กตู่” ว่าเป็นจอมกู้ และการไม่ใส่ลงในเหตุผลที่ส่ง กกต. ไม่ใช่เพราะเก่งกว่าเลยไม่ต้องกู้เงินทำ แต่เพราะกลัวคำๆ นั้นมันจะกลับมาทิ่มแทงตัวเอง เหมือนเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

ยังไม่ได้พูดในแง่กฎหมาย ที่เสี่ยงผิดทั้งพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 และพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เข้าข่ายเป็นการออก “เงินตรา” อีก
.
และแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวทำพรรคเพื่อไทย และ “เศรษฐา” ต้องกลายเป็น “วัวพันหลัก”ต้องประชุมแล้วประชุมอีกเพื่อหาคำตอบให้ กกต. และคำตอบที่ได้มากลับเป็นคำตอบที่เป็นประเภทวิชาเกิน ไม่ใช่วิชาการ

และโยนให้เด็กรุ่นใหม่ในพรรคมาเป็นหนังหน้าไฟ ผู้ใหญ่ที่เป็นกูรูการเมืองและเศรษฐกิจหดหัวหมด เพราะรู้ว่าออกมาตอบโต้ชี้แจงเรื่องนี้มีแต่เข้าตัวเอง เลยถอนตัวดีกว่า

ตอนนี้นโยบายแจกเงินดิจิตอล สภาพไม่มีอะไรแน่นอน ไม่รู้ทิศทาง ไม่รู้หลักการจะลงเอยอย่างไรแน่ มีแต่การเปลี่ยนแปลงรายวัน ไปตามที่จะคิดกันได้ เพื่อขายผ้าเอาหน้ารอด

ดังนั้น การเปิดนโยบายหวือหวาดูทันสมัย ที่อวยกันเองว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ แต่มีเงื่อนงำมากมาย ซึ่งส่อว่าฝ่าฝืนกฎหมาย มีเจตนาแฝงแจกเงินเพื่อหวังได้เสียง และสุดท้ายอาจจะต้องกู้เงินเพิ่มหนี้สาธารณะ ถ้าไม่กู้ก็ทำไม่ได้ ก็ส่อว่าจะกลายเป็นนโยบายหลอกลวง ตั้งแต่ตอนนี้

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น