“ผู้กองธรรมนัส” โต้ “ชาญชัย” กรณีปูด 130 บิ๊กเนม ไม่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง ชี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่ได้ถือหุ้นสื่อ “อย่าตีโพยตีพาย เพราะไฟไม่ได้ไหม้สำเพ็ง แต่ไหม้เฉพาะเขต 2 นครนายก”
วันนี้ (24 เม.ย.) จากกรณี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ถูก ผอ.กกต. ประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 นครนายก ตัดสิทธิการลงรับสมัคร ส.ส. โดยระบุถือครองหุ้นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ว่า เข้าข่ายตามลักษณะต้องห้ามของการเป็นผู้สมัคร ส.ส. โดย นายชาญชัย ได้ออกมากล่าวหาพาดพิงทำนองว่า เป็นเรื่องแปลกประหลาด ที่ตนเองถูกตัดสิทธิคนเดียว เพราะเห็นหลักฐานของ กกต.ทราบว่า มีชื่อนักการเมืองทั้งหมด130 คน มีผู้สมัคร ส.ส.ระดับบิ๊กเนม รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวพรรค พปชร.รวมถึงคนดัง คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรค พปชร.อยู่ด้วย แล้วทำไมยังเดินหาเสียงได้อีก ทำไมไม่ถูกตัดสิทธิ
ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดพะเยา เบอร์ 6 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ กล่าวว่า นายชาญชัย คงเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนว่าบุคคลอื่นดังกล่าวถือหุ้นสื่อด้วย จึงขอชี้แจงว่า โดยเฉพาะท่าน พลเอก ประวิตร และตนเอง ไม่ได้ถือหุ้นสื่อ จึงไม่เป็นความจริงตามที่นายชาญชัยเข้าใจผิด ที่สำคัญคือ รายชื่อ 130 คน ที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งมาเพียงบอกว่าเป็นผู้มีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า ทั้ง 130 ท่านจะถือหุ้นสื่อแต่อย่างใด
“อยากฝากไปบอกคุณชาญชัย ว่า ให้กลับไปดูบทบัญญัติบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 98(3) คือ เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ โดยข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นบทบัญญัติห้ามเด็ดขาด ดังนั้น “เหตุการณ์ไม่ได้ถึงขั้นไฟใหม้สำเพ็ง แต่ไหม้เฉพาะนครนายก เขต 2 เท่านั้น” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำ