xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” นำปราศรัยวงเวียนใหญ่ ชู “4 ทำ 3 ไม่” “มาดามเดียร์” อัดบางพรรคเอื้อนายทุนทำค่าไฟแพง จี้หยุดวาทกรรม “ชังชาติ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์” นำทัพ ปชป.ปราศรัยวงเวียนใหญ่ แฟนคลับแห่ฟังแน่น ชู “4 ทำ 3 ไม่” ด้วยประชาธิปไตยไม่โกง ด้าน “มาดามเดียร์” แฉบางพรรคเอื้อนายทุนทำค่าไฟฟ้าแพง อัดนักการเมืองไม่มีสิทธิไล่ใครออกนอกประเทศ-หยุดวาทกรรม “ชังชาติ”

วันนี้ (23 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำลูกพรรคและผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีประชาชนร่วมรับฟังปราศรัยพอสมควร ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ขึ้นปราศรัยประกาศยุทธศาสตร์ใน 20 วันสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้ง “4 ทำ 3 ไม่” มั่นใจแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง และขอให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง

สำหรับยุทธศาสตร์ 4 ทำ คือ

1. ประชาธิปัตย์จะทำประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มีความเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป และสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เพื่อเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ โดยไม่หมวด 1 และหมวด 2 ที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์

2. ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องมีเงื่อนไข 2 ข้อ ข้อ 1 ต้องได้รับเสียงข้างมากในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารวมกัน เกิน 376 เสียงจาก 750 เสียง ข้อ 2 ต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพราะถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรีจากที่ประชุม 2 สภา แต่มีเสียงน้อยในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย สุดท้ายก็จะบริหาร ประเทศไม่รอด

3. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี

4. ประชาธิปัตย์จะจัดการกับปัญหายาเสพติดที่คุกคามสังคมไทยให้สิ้นซากโดยเร็วที่สุด ด้วยยุทธศาสตร์ตาต่อตาฟันต่อฟัน และประชาธิปัตย์สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์แต่ไม่เอากัญชาเสรี

ส่วน “3 ไม่” ก็คือ 1. ไม่ยกเลิกมาตรา 112  2. ไม่เอายาเสพติด 3. ไม่เอาทุจริต คอร์รัปชัน

“มาดามเดียร์” ชู ปชป.มีอดีต ปัจจุบัน และอนาคตร่วมกับประชาชน


น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยว่า ตนมั่นใจว่า สิ้นเดือนนี้ พวกเราทุกคนจะหนาว เพราะได้เห็นบิลค่าไฟ และจะหนาวขึ้นเรื่อยๆ เพราะค่า FT ยังจะขึ้นต่อไปไม่จบ และไม่ใช่แค่ค่าไฟ แต่ยังมีค่าแก๊สที่พวกเราใช้ทำกับข้าวก็สูงขึ้น ข้าวของก็แพงขึ้น และของที่แพงขึ้นนี้ก็กลายเป็นรายได้ของนายทุนแค่ 10% ของประเทศ แต่ประชาชนอย่างพวกเราอีก 90% กลับจนลงๆ ทุกวัน เพราะที่ผ่านมา เรามีพรรคการเมืองบางพรรค นักการเมืองบางคน อาสาเข้ามาทำงานการเมือง แต่สุดท้ายเมื่อเข้าสู่อำนาจ เข้าสู่สภา ก็เข้าไปตักตวงประโยชน์ของตัวเอง เข้าไปช่วยนายทุนผูกขาดอำนาจ หาเงินให้แต่นายทุน แต่ไม่เห็นหัวประชาชนเลย


น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา มีพรรคการเมืองบางพรรค อ้างว่า ตัวเองมาจากประชาชน เขาบอกว่าเขาสวมเสื้อประชาธิปไตย แต่พอเข้าไปสู่อำนาจ เข้าไปสู่สภา เข้าไปเป็นรัฐบาล กลับไปทุจริตนโยบาย หาผลประโยชน์ให้แก่พรรคพวก ขณะที่อีกฝ่ายบอกว่าต้องเข้ามา เพราะต้องเลือกความสงบ แต่ก็จบลงที่เศรษฐกิจที่เงียบสงัด ความขัดแย้งบานปลายยิ่งกว่าเดิม เราวนเวียนอยู่กับเรื่องทุจริต คอร์รัปชัน ที่นำไปสู่เงื่อนไขของรัฐประหาร และผูกขาดอำนาจ เอื้อนายทุนแล้วกลับมาสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซาก ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยน และหากเราอยากได้พรรคการเมืองที่สุจริต พรรคการเมืองที่มาจากอำนาจของประชาชน พรรคนั้น คือ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26

“พรรคการเมืองต้องฟังเสียงของประชาชนทุกคน เพราะประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ถ้าเราจะต้องเสนอตัวเองเข้ามาเป็นนักการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย สิ่งหนึ่งที่นักการเมืองคนนั้นจะต้องรู้ว่า ภายใต้สังคมไทย ภายใต้สังคมหนึ่งๆ ย่อมมีความหลากหลาย มีความเห็นแตกต่าง แต่ไม่ว่าใครจะมีความเห็นต่างอย่างไร เขาก็คือประชาชนคนหนึ่งของประเทศไทย ไม่มีสิทธิไล่ใครออกนอกประเทศ เราไม่มีสิทธิไปตราหน้าใครว่าชังชาติ และเดียร์มั่นใจว่าเขาไม่ได้ชังชาติ แต่เขาชังนักการเมืองที่คดโกงทุจริตต่างหาก” น.ส.วทันยา กล่าว

น.ส.วทันยา ยังกล่าวอีกว่า ที่มีพรรคการเมืองพยายามผลักคนเห็นต่างไปเป็นศัตรูนั้น สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ฟังเสียงของคนทุกคน ทุกรุ่น ทุกกลุ่ม และเป็นพรรคการเมืองของประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง






















กำลังโหลดความคิดเห็น