“ธนกร” เผย รทสช.ดึง 6 แกนนำตอกย้ำนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ผ่านคลิปสั้น ส่งผู้สมัคร ส.ส.ปูพรมบอกต่อประชาชนทั้งประเทศ เน้นเข้าใจง่าย เห็นภาพ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัย เปิดเผยว่า รทสช.เตรียมเผยแพร่คลิปนโยบายเพื่อให้ผู้สมัคร ส.ส.นำไปเผยแพร่บอกต่อประชาชนทั้งประเทศ ว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ตามสโลแกน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ผ่านแกนนำ 6 คน ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรค ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และตน
นายธนกร กล่าวว่า ในคลิปดังกล่าว ตนได้ชี้แจงเรื่องโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต่อยอดเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัสให้ประชาชนคนละ 1,000 บาท สามารถใช้บัตรนี้ไปกู้เงินฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท โครงการคนละครึ่งที่ทำมา 5 เฟส พรรครวมไทยสร้างชาติจะมาทำต่อโครงการคนละครึ่งภาคสอง โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 11 ล้านคน และปี 2566 เราตั้งเป้า 27.5 ล้านคน ซึ่งจะมีเงินเข้าประเทศถึง 2.3 ล้านล้านบาท โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีการลงทุนถึง 2.2 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานถึง 100,000 อัตรา เป็นการรหาเงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทุกนโยบาย ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำสำเร็จมาแล้ว ซึ่งเราจะแตกต่างจากพรรคการเมือง
นายธนกร กล่าวว่า ส่วน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงนโยบายโคเงินล้าน โคล้านครอบครัว “ทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้คนไทยหลุดพ้นจากความยากจนและสามารถจะเป็นคนรวยได้โดยวิธีง่ายๆ จากการเลี้ยงโค โดยให้กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านวงเงิน 50,000 บาท นำมาซื้อโคไปเลี้ยง จะมีเงินล้านในระยะเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น โครงการนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้อนุมัติ วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยรัฐอุดหนุนดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ปี เป็นเงิน 600 ล้านบาท ให้กองทุนหมู่บ้านนำร่องโครงการนี้ 100,000 ครอบครัว โครงการนี้ ทำแล้ว ลองแล้ว สำเร็จแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติจะทำต่อจะทำให้พี่น้องพบกับความร่ำรวยไม่ขายฝัน
ส่วน พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา จะพูดถึงนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านสาธารณสุข จะมีการยกระดับในเมืองใหญ่ ประชากรหนาแน่น ในโครงการ หนึ่งเขต หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในการลงทุน โครงการนี้ผู้ป่วยทุกสิทธิ์ที่รักษาพยาบาลได้ประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ป่วยบัตรทอง สำหรับการแก้ปัญหาด้านบริการสาธารณสุข ในพื้นที่เขตชนบทอำเภอต่างๆ ในจังหวัดที่มีประชากรไม่หนาแน่น มักประสบปัญหาเรื่องขีดความสามารถทางการแพทย์ ดังนั้นการใช้วิสาหกิจเพื่อสังคมไปเติมขีดความสามารถทางการแพทย์เฉพาะสาขา แต่ละโรงพยาบาลที่ขาดแคนตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง จะลดอุบัติการการเสียชีวิตของผู้ป่วยในพื้นที่ชนบทได้ กรณีสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ผู้สูงอายุคนพิการและกลุ่มเปราะบางทางสังคมประจำตำบลอำเภอจังหวัดยังเป็นเครือข่ายเป็นระบบสามารถปฏิบัติได้จริงอันนี้เป็นสิ่งแรกเดือนที่รวมไทยสร้างชาติ จะทำ
ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ จะชี้แจงนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การให้ทุนการศึกษาเด็กยากจน ตั้งแต่ปี 2563-2566 วงเงิน 28,000 ล้านบาท ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ ที่มีที่พักอาศัยไม่เหมาะสม โดยเข้าไปซ่อมแซมให้ 180,000 ครัวเรือน หาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดเดือนละ 999 บาท มี 13,000 ครอบครัว ตั้งเป้าทำให้ครบ 100,000 หลัง ดูแลกลุ่มเด็กแรกเกิดได้รับเงินเดือนละ 600 บาทช่วยเหลือค่านม เรามีศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบล และชุมชนทั่วประเทศ 7,092 ศูนย์ บูรณาการกันทุกกระทรวงเป็นแอพแจ้งเหตุปักหมุดหยุดเหตุเริ่มดำเนินการ 1 เมษายน และจะขยายไปทั่วประเทศที่โรงพักทั้งหมด 1,483 โรง ร่วมกับศูนย์ชุมชนอีก 7,000 แห่ง ประชาชนดูแลบริหารเองไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสามารถลดความรุนแรงในครอบครัวแก้ปัญหายาเสพติดรัฐบาล
นายธนกร กล่าวว่า ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ชี้แจงนโยบายหาเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท มาจากทำแล้วทำอยู่ทำต่อ จากการลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท ทำให้มีการคมนาคมที่สมบูรณ์ทั้งระบบ การมีโครงสร้างดิจิทัลที่สมบูรณ์ ช่วยเยียวยาประชาชน ผ่านแอพระบบกระเป๋าตัง นโยบายคนละครึ่ง การปักธงในต่างประเทศว่าไทยจะลดคาร์บอนให้เหลือศูนย์ภายในปี 2,050 เพื่อเป็นฐานของอุตสาหกรรมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เรื่องไมโครชิพจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมใหม่ที่จะหารายได้เข้าประเทศ นอกจากนี้จะมีเงินจากการลงทุนภายในประเทศ คือ เศรษฐกิจบิซีจี ระเบียงเศรษฐกิจครบสี่ภาค ภาคเหนือ ภาคกลางภาคอีสา นและภาคใต้ เรื่องการท่องเที่ยวเราได้ออกวีซ่าระยะยาว 10 ปี เพื่อชี้ชวนชาวต่างชาติที่มีศักยภาพให้มาลงทุนกินอยู่ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนไทย เพิ่มโอกาสของไทยในการค้าขายแล้วก็เพิ่มโอกาสในการเข้าสู่เวทีโลก
ขณะ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ชี้แจงนโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน สิ่งที่ทำแล้ว อาทิ กยศ. ช่วยเหลือแล้ว 6,800,000 คน การแก้หนี้สินเชื่อเช่าซื้อ ที่มีลูกหนี้กว่า 20 ล้านราย ลดดอกเบี้ยเงินกู้แก้หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จะทำให้มีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็น การแก้หนี้ของโควิดที่ไม่ได้เกิดจากความผิดประชาชน จะแก้ให้เสร็จภายในหนึ่งปี สำหรับผู้กู้ 3 ล้านกว่าราย การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เงินในส่วนการประกันตน 30 เปอร์เซ็นต์ ของแรงงานมาใช้ก่อนหรือก็บอขอของราชการ 30% ได้มีโอกาสนำมาใช้ในการลดภาระหนี้และอัตราดอกเบี้ยสูงในยามจำเป็นและฉุกเฉิน ตรงนี้เป็นสิ่งที่รวมไทยสร้างชาติเราจะทำแล้วเราทำต่อได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน