xs
xsm
sm
md
lg

เจาะลึก “พรรคพลัง” ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 9 ม้ามืด กระแสมาแรง นโยบายทุกด้านจัดเต็ม พรรคใหม่ นโยบายใหญ่ “เลือกคนทำงาน เลือกพรรคพลัง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจาะลึก “พรรคพลัง” ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 9 ม้ามืด กระแสมาแรง นโยบายทุกด้านจัดเต็ม พรรคใหม่ นโยบายใหญ่ “เลือกคนทำงาน เลือกพรรคพลัง” กา เบอร์ 9 ก้าวแรก ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

วันที่ 22 เมษายน 2566 พรรคพลัง เป็นพรรคการเมืองใหม่ ที่จัดตั้งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 โดยผู้บริหารระดับสูงของพรรค เป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง โดยการรวบรวมจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยเสนอนโยบายเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน เป็นกลางทุกฝ่าย เป็นมิตรกับทุกพรรคการเมือง ไม่ทะเลาะกับใคร โดยมีนโยบายที่มุ่งแข่งขันกับตนเอง โดยมุ่งถึงพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะนโยบาย 46 ข้อ ปล่อยหมัดเด็ดออกมา ครอบคลุมนโยบายทั้งปัญหากฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม โดยเฉพาะสถาบันครอบครัวเงินเดือนนักเรียน รวมถึงรักษาพยาบาลฟรี ด้วยบัตรประชาชนในเดียว โดยล่าสุด ได้ปล่อย นโยบายด้านแรงงาน ถูกใจพี่น้องแรงงาน พร้อมทั้งชี้ให้เห็นเหตุผลที่ จะต้องเลือกพรรคพลัง โดยนายมานิตย์ ปิยัง ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้นและกรรมการสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย เสริมทีมแรงานพร้อมด้วยนายชัชชัย ด้วยพิทักษ์ อดีตประธานสหภาพแรงงานหลายสมัย ทำให้พี่น้องแรงงาน พี่น้องฉันทนา หัวใจฟื้นฟู อย่างมีความหวัง โดยเฉพาะนายลิขสิทธิ์ ใสกระจ่าง หัวหน้าพรรคพลังให้ความสำคัญต่อสถาบันครอบครัว นโยบายปั๊มลูก เด็กแรกเกิดถึงสามปี เดือนละ 6,000 บาท นโยบายเงินเดือนนักเรียน เป็นขั้นบันได ยืนยันว่าลดภาระผู้ปกครอง ลดความเหลื่อมล้ำคนรวยคนจน โดยนายลิขสิทธิ์ ลั่น ประชาชนต้องเรียนฟรีถึงปริญญาตรีอย่าจริงจัง และต้องมีเงินเดือนนักเรียน นักศึกษา จะทำให้เสมอภาคการเข้าถึงระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานถึงปริญญาตรี ส่งผลลดภาระในครอบครัว โดยพรรคพลังเน้นการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้หญิงและเด็ก โดยมุ่งปราบยาเสพติด ปราบยาบ้า ให้เด็ดขาด ยกเลิกกัญชาเสรีเพราะเป็ยภัยแก่เด็กและเยาวชน ให้ผลักดันตั้งกระทรวงเพิ่มเติม 2 กระทรวง คือ กระทรวงสตรีและเยาวชน กระทรวงยาเสพติดและสารพิษ เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างปัญหาของสังคม คุ้มครองสตรีและเยาวชน การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา หมายถึง การให้สิทธิโดยเท่าเทียมการศึกษา เพราะการกู้ยืม กยศ.ของนักเรียน นักศึกษา ไม่ได้แก้ปัญหาโดยตรง เพราะให้สิทธิเข้าเรียนฟรี แต่ติดหนี้ ต้องปลดล็อคการเข้าถึงการศึกษาให้เรียนฟรีและมีเงินเดือนเพื่อสร้างให้เยาวชนคนเก่งของชาติ มาช่วยกันพัฒนาประเทศ ไม่ใช่ติดทุน สมองไหล พัฒนาทั้งร่างกาย การศึกษาที่เสมอภาคและเท่าเทียม เป็นรัฐสวัสดิการ ทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว ที่เห็นได้ชัดเจน ในการเปลี่ยนระบบการเรียนสายสามัญ เป็นการเรียนสายอาชีพตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษา รองรับให้เก่ง เชี่ยวชาญเฉพะด้าน โดยเฉพาะดึงความรู้ความสามารถเฉพาะมาใช้สาขาที่เรียน ทำให้รองรับการทำงาน ทำให้เรียนจบมามีงานทำ แก้ปัญหาตกงานและคนไทยไม่เลือกงานทำ ให้ตรงกับสายที่เรียนจบมา สอดคล้องกับนโยบาย คุณวุฒิปริญญาตรีทุกสาขา ภาคเอกชน ภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน เงินเดือนยกระดับความมั่นคง เพื่อให้พอเพียงกับการดำรงชีพ ลดอาชญากรรม คือ เริ่มต้นเงินเดือนละ 30,000 บาท เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งภาคเอกชน ภาคราชการ โดยการเพิ่มเงินเดือน 30 เปอร์เซ็นต์ เอาใจทั้งทหารพราน ข้าราชการ และข้าราชการบำนาญที่เกษียณอายุ แต่มีคุณค่าแก่สังคม พรรคใหม่ นโยบายใหญ่ สมกับคำว่า “พลัง”

ส่วนภาคเกษตรกรรม ส่วนใหญ่ของประเทศ เอาใจพี่น้องชาวสวน ชาวไร่ ชาวนาและชาวประมง โดยเฉพาะชาวนา กระดูกสันหลังของชาติ โดยพรรคพลังให้ความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจฐานรากหรือรากหญ้า โดยประกันราคาข้าว ตันละ 30,000 บาท โดยมุ่งยกระดับชาวนา ให้ทำนาให้คุ้มทุน โดยขุดลอกท่อจากแม่น้ำโจง เส้นเลือดใหญ่มาสู่ภาคอีสาน และภาคกลาง เพิ่มโอกาสทำนาและน้ำอุดมสมบูรณ์ทั้งปี ทั้งชาวไร่ ชาวสวนมุ่งถึงจุดคุ้มทุน ประกันพืชผลทางการเกษตรถ้วนหน้า โดยเฉพาะยางพารา สินค้าเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคใต้ ภาคตะวันออกและภาคอีสาน แหล่งผลิตกรีดน้ำยางพารา นโยบายประกัน ราคา ยางพารา 120 บาทต่อกิโลกรัม โดยวิเคราะห์จุดคุ้มทุนและความเป็นไปได้ ทำให้พี่น้องสวนยางพาราที่กรีดน้ำยางพาราได้ใจชื้น ใจอุ่น กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ใช่ 3 กิโล 100 ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจ ยืนยันว่าสามารถทำได้ โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันแพง คณะทำงานด้านเศรษฐกิจวิเคราะห์แล้ว ประชาชนควรใช้น้ำมันทุกชนิดในราคาลิตรละ 25 บาท ราคาเป็นธรรม ลดค่าใช้จ่ายแก่ครัวเรือน เพราะเป็นเศรษฐกิจฐานราก หากน้ำมันราคาแพง ทำให้สินค้ามีราคาแพง เพราะต้นทุนระบบขนส่งมีราคาเพิ่ม วิธีการแก้ปัญหาตรงจุด แตกต่างกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ มือเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ เสนอลดราคานั้นในราคาลิตรละ 28 บาท ซึ่งมีกระบวน วิธีคิดแตกต่าง ซึ่งพรรคพลังยืนยันว่าอุบไว้เป็นความลับสูตรและข้อกฎหมายที่ทำให้ราคาน้ำมัน เสถียรภาพ อยู่ที่ราคาน้ำมันทุกชนิด 25 บาทต่อลิตร ส่วนการแก้ปัญหาไฟฟ้าแพง ที่ยั่งยืน นโยบายติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ จากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานทดแทนไฟฟ้า ติดตั้งในราคาเป็นธรรม ทุกครัวเรือน สามารถผ่อนราคาให้แก่รัฐได้ กำหนดแนวทางจังหวัดนำร่อง ทำทันที

กระแสร้อนแรงไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล การปฎิรูปกองทัพ การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร มาเป็นภาคสมัครใจ เเพิ่มศักยภาพทางกองทัพให้เป็นทหารอาชีพ ลดอัตรากำลังพลชั้นยศนายพล โมเดลพระยาพลเอกพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ลดค่าใช้จ่ายกองทัพ ลดค่าใช้จ่ายกองทัพ การเมืองจะต้องแก้ปัญหาทางการเมือง การรัฐประหารน้อยลง ทำให้ภาคการเมืองเข้มแข็ง ที่ผ่านมา นับแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ล้มลุกคลุกคลานเพราะการรัฐประหาร หากทำให้กองทัพเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะชายแดนของประเทศ มีทหารพรานรับจ้าง เป็นด่านหน้า การเพิ่มค่าตอบแทนเสี่ยงภัย ทหารพราน เป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ทั้งการเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ รวมทั้งกองทัพ ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจทำให้เป็นมืออาชีพ โดยยืนยันอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่แก้มาตรา 112 ยึดมั่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

การผลักดัน พรบ.ลำใย ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ เพิ่มมูลค่าทางการค้าทางภาคเหนือ เพิ่มกำลังให้คนตัวเล็ก แต่ใจใหญ่ โดยเพิ่มรถสาธารณะ โพยเพิ่มค่ารถแท็กซี่ สตาร์ท เริ่มต้นที่ 50 บาท เป็นการพยุงทุกอาชีพทำให้ประชาชนฐานรากได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะการเพิ่มค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 5,000 บาท เพิ่มค่าเสี่ยงภัย อปพร จากรายชั่วโมง โดยกำหนดเป็นเดือนละ 7,000 บาทและค่าเสี่ยงภัยนักผจญเพลิงท้องถิ่น ภูมิภาค ไม่ได้รับการเหลียวแล พรรคพลัง จัดโปรใหญ่ ไฟกระพริบ เอาใจอาสาสมัครนักเสี่ยงภัย เพราะให้ความสำคัญของมนุษย์ผจญเพลิงที่เสี่ยงภัย ไปดับเพลิง เป็นอาสาสมัครที่จะต้องได้รับค่าเสี่ยงภัยถ้วนหน้า เดือนละ 7,000 บาท เพื่อให้เสมอภาคนักผจญภัยในกรุงเทพมหานคร ที่สำคัญจุดกระแส ยกเลิกบัตรคนจนทั่วประเทศ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนคนรวย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่มโปร จ่ายเพิ่ม แต่พรรคพลังเสนอยกเลิกบัตรคนจน แล้วตั้งชื่อใหม่ “เป็นบัตรสวัสดิการประชาชนเพิ่มสุข” โดยยังคงเงินที่ประชาชนได้รับเพราะเป็นภาษีของประชาชน พร้อมผลักดันทำทันที

ส่วนนโยบายปราบปรามยาเสพติด ยกเลิกกัญชาเสรี เป็นนโยบายเร่งด่วน มาพร้อมกับปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษกิจ โดยมุ่งเป้าแก้ไขปัญหาจัดการขั้นเด็ดขาด แชร์ลูกโซ่ พนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์ ที่ระบาดทุกหัวระแหง เพราะเป็นภัยสังคม ขณะที่กระทรวงดิจิทัลฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลับเพิกเฉย จึงเป็นนโยบายหลักและเป็นนโยบายเร่งด่วน ไม่น้อยหน้ากว่านโยบายปั๊มลูกเดือนละ 6,000 บาท ปัญหาหนี้สิน การพักหนี้สินเกษตรกรและดอกเบี้ย 5 ปี เพื่อให้มีระยะเวลาฟื้นฟูเศรษฐกิจและจุดคุ้มทุนภายหลังโควิด 19 ระบาดทั่วโลก ทำให้หนี้สินครู ที่เป็นอาชีพข้าราชการที่เป็นหนี้มากที่สุด ปรับสภาพโครงสร้างหนี้ ให้กลายเป็นศูนย์ พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติจะได้หันมาใสใจ ทุ่มเท พัฒนาองค์ความรู้ ถ่ายทอดให้เด็กและเยาชนของชาติให้มีคุณภาพ ทั้งปัญหาชาวประมงพื้นบ้าน ชาวประมงท้องถิ่น ไร้ข้อจำกัดในการจับสัตว์น้ำ ไม่จำกัดเครื่องมือ ให้ธรรมชาติบำบัดธรรมชาติดั่งประเพณีดั้งเดิม

ส่วนยกระดับสาธารสุขขั้นพื้นฐาน มีผลต่อประชาชนโดยตรง นำเสนอแอพพลิเคชั่น มารดาพลัง 24 ชั่วโมง เทียวเคียงเหมือนเป็นแพทย์ประจำตัว ยามฉุกเฉิน เชื่อมโยงระหว่างแพทย์กับคนไข้ หรือญาติผู้ป่วย ให้คำตอบ แนะ วิธีการแก้ไข รักษาพยาบาลได้ทันท่วงที เหมือนในต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบาย สุดปัง คือ รักษาสุขภาพฟรีถ้วนหน้า ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยเฉพะปัญหาโรคไต ที่คนไทยจำนวนมากจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงต่อครั้ง โดยนโยบายรักษาโรคไตฟรี โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เป็นวัยที่จะซ่อมแซมร่างกาย รักษาฟรีถ้วนหน้า ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว แถมผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีหลักประกัน เบี้ยผู้สูงอายุ ถึง 5,000 บาทต่อเดือน ต้องยกให้มันสมองเพชรทีมเศรษฐกิจของพรรคพลัง ที่คลอดนโยบายที่แก้ปัญหาทุกด้านให้แก่พี่น้องประชาชน

ส่วนนโยบาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เท่าที่ตรวจดูนโยบายที่พรรคการเมืองอื่นไม่มี โดยเฉพาะแรงงาน จุดขาย คือ บำนาญแรงงาน เดือนละ 15,000 บาท มาจากเงินสะสมของลูกจ้างเอง หากหักสะสมเข้ากองทุนประกันสังคม ครบ 15 ปี ยกฐานะสิทธิได้เท่าเทียมข้าราชการ เป็นหลักประกันความมั่งคงลูกจ้าง คือ ได้รับสิทธิบำนาญจากกองทุนประกันสังคมตลอดชีวิตและรักษาพยาลตลอดชีพ หากหักสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะได้รับสองเด้ง โดยค่าแรง คิดฐานค่าจ้างลูกจ้างวันละ 1,000 บาทหรือเริ่มต้นที่เงินเดือนแรก 30,000 บาท ต่อเดือน ทำให้ลูกจ้างมั่นคง นโยบายนี้ถูกใจยิ่งกว่าแจกเงินดิจิทัล ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งยังไม่รู้ว่า แจกเงินดิจิทัล จะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ หากเป็นสัญญาว่าจะให้ มีสิทธิโดยยุบพรรค ส่วนที่โดนใจที่สุดของพี่น้องแรงงาน ลูกจ้างภาคเอกชน เงินกองทุนประกันสังคมที่ถูกหักสะสม สามารถถอนคืนได้ สามารถกู้ยืมเงิน ไม่ต่างจากสหกรณ์ลูกจ้าง เพราะเป็นเงินของลูกจ้างเอง เทียงเคียบกับสิทธิข้าราชการที่กู้สหกรณ์ขององค์กร แต่ลูกจ้างไม่ต้องรออายุ 55 ปี ได้สิทธิทันที ไม่ต่างนำเงินไปฝากธนาคา เป็นสิทธิของลูกจ้างเพราะเป็นค่าหยาดเหงื่อแรงกายของลูกจ้าง โดยเรียกร้องกันมานาน คราวนี้ ได้สิทธิเท่าเทียมข้าราชการแน่นอน มันสมองแรงงาน แก้ปัญหาตรงจุด เรียกคะแนนถล่มทลาย

บั้นปลายชีวิต ครอบครัวไม่เดือดร้อน เหตุผล ประกันชีวิตถ้วนหน้า 100,000 บาทต่อราย โดยมีเงินค่าจัดการศพในเชิงตะกอน รายละ 30,000 บาท ไม่สร้างภาระไว้ให้แก่คนข้างหลัง

ปัญหาสิทธิทำกัน ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ผลักดันให้ที่ดินทุกแปลงมีเอกสารสิทธิ ภายใต้ชื่อนโยบาย “โฉนดม้าทองคำ” เป็นอาชานำพาความั่งคั่ง หลักประกันมั่นคง ชาวบ้านเข้าถึงสิทธิ รับประกันไม่ครอบครองที่ดินรัฐ ไม่บุกที่หลวง แต่ได้รับสิทธิทำกินถ้วนหน้า ไม่จำกัดที่ดินกี่ล้านไร่ แปลงสินทรัพย์เป็นทุน ที่ดิน สปก.4-01 ออกโฉนดที่ดินได้ คนมีรายได้น้อยและครอบครองที่ดินมานานได้สิทธิครอบครอง ต้องได้สิทธิในกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนการลดความเหลื่อมล้ำคนรวยคนจน ตัดที่ดินคนรวยมาแจกคนจน ไม่เกินคนละ 50 ไร่ ตรรกะคนรวยแบ่งให้คนจนกระแสนโยบายร้อนแรงเพิ่มอุณหภูมิทางการเมืองนับแต่เปิดนโยบาย โดยคณะทำงานด้านกฎหมาย ยืนยันว่า ทุกนโยบาย เป็นไปตามมาตรา 57 แห่งกฎหมายพรรคการเมืองและพรรคพลังได้ชี้แจงนโยบายที่มา งบประมาณที่ต้องใช้ ความเสี่ยงความคุ้มค่า เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ กกต. ทำได้ทุกนโยบาย

การปล่อยกระแสนโยบายสุดล้ำ ครอบคลุมทุกด้าน ทุกมิติ บอกได้คำเดียว พรรคการเมือง แม้เป็นพรรคใหม่ แต่กระแสมาแรงแซงทุกโค้ง ความนิยมเพิ่มขึ้น พูดถึงกันทุกหัวระแหง จับบนพื้นที่สื่อ สื่อมวลชนจับตาลุ้นเก้าอี้กี่ที่นั่ง โดยในโค้งสุดท้าย เชื่อว่าพรรคพลัง พรรคใหม่ แต่นโยบายใหญ่ ต้องจับตา ทีมเศรษฐกิจสมองเพชร จะปล่อยทีเด็ดออกมากวาดคะแนน ให้พี่น้องประชาชน เลือก พรรคพลัง กา เบอร์ 9 ให้ถล่มทลาย






กำลังโหลดความคิดเห็น