วันนี้ (19 เม.ย.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านสิทธิสตรี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ลงพื้นที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยรณรงค์หาเสียงให้ นายสุธรรม จริตงาม ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 5 โดยได้เดินพบปะและพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ที่ตลาดตำนาน ในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี
โดย ศ.ดร.นฤมล พร้อมด้วย ผู้สมัคร ได้ประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจ ให้พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนรับทราบถึงความตั้งใจในการนำนโยบายของพรรค ที่จะเข้ามาสานต่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้พบว่า พ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดอยากได้นโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือนเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา บัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถช่วยกระตุ้นยอดการค้าขายได้เป็นอย่างดี
โดย เมื่อเวลา 17.00 น. พรรคพลังประชารัฐ ณ บริเวณหน้าสถานีรถไฟทุ่งสง ได้เปิดเวทีปราศรัย โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ขอขอบคุณชาวอำเภอทุ่งสงทุกคน ที่แม้จะฝนจะตก แต่ก็ยังนั่งรอฟังการปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ตนได้เจอกับนายสุธรรมมาตั้งแต่สามปีที่แล้วที่ตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่เจอนายสุธรรม ก็มีความตั้งใจที่จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐมาโดยตลอด ด้วยความมุ่งมั่นที่อยู่ในตัวของนายสุธรรม ทำให้ผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐเล็งเห็น จึงได้มาทำความรู้จักกันจน และพบว่าอุดมการณ์ของเราตรงกัน นายสุธรรมไม่เคยพูดว่าอยากจะได้อะไร อยากจะเป็นอะไรแต่เขาพูดเสมอว่า อยากจะทำให้พี่น้องชาวทุ่งสงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในเรื่องอะไรบ้าง
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราต้องการจะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้เข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ที่เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อเด็กเกิดมาก็ต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างประชาชนทั่วไปก็ต้องได้รับการส่งเสริมให้มีอาชีพ เพื่อที่เขาจะสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองให้ได้ สิ่งนี้ภาครัฐก็จะต้องเข้าไปดูแลเช่นกัน นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ในเรื่องของสวัสดิการประชารัฐไม่ใช่เพียงแค่บัตรประชารัฐเท่านั้น แต่หมายถึงคนไทยจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน โดยการดูแลจากภาครัฐ ในส่วนของเกษตรกรก็เช่นกันเราจะเข้าไปดูแลตั้งแต่ในเรื่องของต้นน้ำก็คือการลดต้นทุนการผลิตการเพาะปลูกเพื่อให้ได้กำไรจากผลผลิตมากที่สุดรวมไปถึงการลดหนี้และลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศ พรรคพลังประชารัฐจะดูแลเกษตรกรด้วย 3 เพิ่ม คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มโอกาสให้กับพี่น้องเกษตรกร และ เพิ่มทางเลือก
“พี่สุธรรมได้เสนอปัญหาของชาวทุ่งสงให้กับผู้ใหญ่ในพรรคฟังมาตลอด ว่า จะต้องแก้ปัญหาและดูแลพี่น้องในด้านใดบ้าง ทำให้พรรคเรารู้ปัญหาอย่างถ่องแท้และได้มีการเตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้ว ทันทีที่เราได้เข้าไปบริหารประเทศในฐานะรัฐบาล เราพร้อมทำทันที เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอดว่า เราจะต้องเข้ามาดูแลประชาชนในเรื่องของเศรษฐกิจปากท้องให้ประชาชนอยู่ดีกินดีให้ได้ สุดท้ายนี้ แหม่มขอโอกาสให้กับนายสุธรรม ที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนมาตลอดสามปี ทั้งที่ไม่เคยมีตำแหน่งอะไรเลย” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ด้าน นางฮูวัยดีย๊ะ กล่าวปราศรัยว่า ถ้าพี่น้องยังลังเลยังไม่มั่นใจในตัวของผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ อย่างนายสุธรรม ต่อให้พรรคพลังประชารัฐจะขนมาปราศรัยทั้งพรรรก็คงไม่มีผลต่อการแพ้ชนะ เพราะอำนาจอธิปไตยขึ้นอยู่ในมือของประชาชนชาวทุ่งสงทุกคน ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทุกคน มีคุณสมบัติคับแก้ว และมีศักยภาพที่จะดูแลทุกข์สุขของประชาชนได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะมาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน น้องสุธรรมทำงานอย่างต่อเนื่อง เตรียมตัว เตรียมใจ เพื่อจะลงรับสมัครเพื่อเป็นตัวแทน และเป็นทางเลือกของชาวทุ่งสงมากว่า 3 ปี ถึงแม้จะเป็นคนหนุ่มแต่ก็มีความตั้งใจที่จะทำงานให้สำเร็จให้ได้ ตนจึงมั่นใจว่า ถ้าพี่น้องที่นี่ให้โอกาสทุกคนจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ บรรยากาศการลงพื้นที่วันนี้เป็นไปคึกคัก แม้ว่าอากาศจะร้อนจนฝนตกลงมาอย่างหนักช่วงหนึ่ง แต่ประชาชนยังมาให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐจำนวนมาก และหลายคนยังกำลังใจและพร้อมสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ด้วย