"สมชัย" ชี้กกต.แจงดูงานต่างปท.ยังไม่เคลียร์ มองเลือกปท.ไม่เหมาะสม งงไต้หวัน -เกาหลี-มาเลย์ คนไทยหลักหมื่นไม่ไป แต่เลือกไปที่คนไทยอยู่หลักร้อย จี้เปิดงบเดินทาง-ของที่ระลึก
วันนี้ (19 เม.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกกต.ชี้แจงเรื่องการเดิทางไปติดตามการเลือกตั้งนอกราชฯแล้วว่าเป็นไปตามงบประมาณที่มีการจัดสรร ว่าภารกิจการไปตรวจติดตามการเลือกตั้งของคนไทยนอกราชอาณาจักรนั้น เป็นภารกิจหนึ่งของกกต.ที่ต้องดูแลให้ครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพียงแต่ว่าจำนวนกกต.ทั้งหมดที่กระจายไปประเทศต่างๆ สังคมอาจจะมองว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก รวมถึงการเลือกประเทศซึ่งตนรับได้กับการที่กกต.ไปดูงานที่ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพราะเป็นประเทศที่เคยมีปัญหาการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในอดีต หรือแม้กระทั่งไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีคนไทยอาศัยอยู่รวม 4 แสนคน แต่เส้นทางในยุโรป 2 ประเทศคือประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมันนี กกต.เคยไปตรวจติดตามแล้วมองว่าไม่ควรไปตรวจซ้ำ ส่วนประเทศฮังการี และสโลวาเกีย มีจำนวนคนไทยใน 2 ประเทศรวมกันอยู่เพียง 8 พันกว่าคน ซึ่งน้อยมากไม่ควรเป็นประเทศที่เลลือกไปตรวจติดตาม
"ยังมีประเทศอื่นที่สำคัญมากกว่าเช่น ไต้หวัน มีคนไทยอยู่ 8 หมื่นคนทำไมไม่ไป เกาหลีใต้มีคนไทยหลายหมื่นคนทำไมไม่ไป มาเลเซียเคยมีปัญหาในการจัดการในอดีตทำไมไม่ไป ผมมองว่าอาจจะไม่เหมาะสม ส่วนของประธานกกต.ที่ไปแอฟริกาใต้ เคนย่า และโมร็อกโก ต้องชมว่าท่านได้ใช้ความอุตสาหะเต็มที่ แต่ก็ยังไม่คิดว่าเป็นจุดที่มีคนไทยอยู่มากเพียงพอ เช่นโมร็อกโก และเคนย่า มีคนไทยแค่หลักร้อยคน นอกจากนี้ประเทศเคนย่าที่เป็นเจ้าภาพในการส่งบัตรกลับมาประเทศไทย มีคนลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแค่ 171 คน โดยทั้ง 3 ประเทศเป็นประเทศที่มีผลกระทบน้อย ประเทศอียิปต์คนไทยอยู่เยอะกว่าลำดับต้นๆในทวีปแอฟริกาท่านควรจะไปแต่ท่านก็ไม่ได้ไป"
นายสมชัย ยังเรียกร้องให้กกต.เปิดเผยงบประมาณค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเดินทางทั้งหมดแต่ละเส้นทางเป็นจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงเสียงครหาในเรื่องของค่าของที่ระลึกซึ่งมีมูลค่ากว่า 4.2 หมื่นบาท คืออะไรอย่างไร และกระทรวงการต่างประเทศซึ่งบอกว่ามีระบบที่เป็นดิจิทัลแล้ว ควรเปิดเผยว่าวันนี้เวลานี้คนไทยในต่างประเทศมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ ตัวเลขของกรมการกงสุลที่เปิดเผยต่อสาธารณะเมื่อปี 2565 เปิดเผยแค่รายทวีป แต่ไม่ได้เปิดเผยเป็นรายประเทศ เท่ากับว่าข้อมูลรายประเทศนั้นล่าสุดเป็นข้อมูลเมื่อปี 2563 ซึ่งล้าสมัยมากแล้ว จึงอยากให้กรมการกงสุลเปิดเผยจำนวนคนไทยในต่างประเทศในแต่ละประเทศมีจำนวนเท่าใด และที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรในแต่ละประเทศมีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสว่าคะแนนเหล่านั้นมาถึงประเทศไทยและบัตรจะถูกนับทั้งหมด