“ธนกร” ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย 2 ผู้สมัคร “สายัณห์-อำนวย” ขอคะแนนคนเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมอ้อนเลือก “ลุงตู่” เป็นนายกฯ อีกสมัย ชูบัตรสวัสดิการพลัส คนละครึ่ง เบี้ยผู้สูงอายุ ทำได้จริง อัดเงินดิจิทัล 1 หมื่น ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหา
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย 2 ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสายัณห์ ยุติธรรม เขต 2 และ นายอำนวย ยุติธรรม หาเสียง เขต 9 หาเสียง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดย นายธนกร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า สำหรับนโยบายพรรค บัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาท กู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท คนละครึ่ง เบี้ยผู้สูงอายุ ทำได้จริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งทำอยู่แล้วและทำอยู่ ได้ทำต่อ
โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมระบุว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ ได้พัฒนาในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้างสนามบิน รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า และถนนหนทาง โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติงบประมาณกว่า 37,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่
พร้อมกันนี้ ได้มองว่า การที่หลายพรรคการเมืองได้นำประเด็นก่อหนี้สาธารณะ 10 ล้านล้าน ของรัฐบาลไปโจมตีในเวทีต่างๆ ถือเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองที่ต้องการลดความน่าเชื่อถือในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พรรครวมไทยสร้างชาติ มากกว่า เพราะจริงๆ แล้ว มันเป็นหนี้ที่เกิดก่อนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มา 6 ล้านล้าน ส่วน 4 ล้านล้าน ในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ ใช้แก้ปัญหาโควิด-19 และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยการนำไปแก้ปัญหาของประเทศ อย่างสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ รวมไปถึงนำไปพัฒนา และกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่าง โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น และกลับมาท่องเที่ยวในไทย ช่วยกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนซึ่งทำให้ประเทศไทยพื้นตัวอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นายธนกร ยังระบุด้วยว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน มีผลงานมากมายและทำได้จริง ในส่วนโครงการบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาท กู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท กองทุนฉุกเฉินประชาชน 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนที่ลำบากลดเงื่อนไขการปล่อยกู้ โดยยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำต่อ ไปเพื่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ โดยขอให้เลือกพรรคหมายเลข 22 และเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขตรวมไทยสร้างชาติ ทุกเขตเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกสมัย ส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทเป็นเพียงนโยบายหาเสียงเพื่อเข้าไปมีอำนาจเท่านั้น ประชาชนอย่างไปหลงเชื่อ เพราะทำไม่ได้จริง ไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน ไม่มีความชัดเจน ไร้ความรับผิดชอบ ไม่ตอบโจทย์ เพราะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวไม่ต้องใช้เงินมากถึง 550,000 ล้าน มาเหวี่ยงแห โดยขณะนี้ทุกฝ่ายออกมาคัดค้านแล้วไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ และตนเชื่อว่า นโยบายนี้จะทำให้ประเทศพังได้