xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ชวนคนไทยขับขี่ปลอดภัย ขากลับจากหยุดยาวสงกรานต์ แนะสังเกตอาการโควิดหลังพบปะสังสรรค์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล จากแฟ้ม
นายกฯ ชวนคนไทยขับขี่ปลอดภัยช่วงเดินทางกลับจากหยุดยาวสงกรานต์ แนะสังเกตอาการโควิดหลังพบปะสังสรรค์ หากสงสัยให้ตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันแพร่ระบาดในที่ทำงาน

วันนี้ (16 เม.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์จะเริ่มเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวเริ่มงานตามปกติในวันที่ 18 เม.ย. เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าการจราจรโดยเฉพาะเส้นทางเข้าสู่กรุงเทพฯ จะหนาแน่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงหาดไทย กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันสนับสนับสนุน อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล และผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ และให้บังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนโดยส่วนรวม

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนผู้ใช้รถใช้ถนนขับขี่ด้วยความระมัดวังเพื่อความปลอดภัย เมาไม่ขับ ง่วงไม่ฝืน ควรแวะพักที่สถานีเติมน้ำมัน หรือจุดพักรถที่ทางการจัดไว้ให้ ขับขี่ด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อผู้ใช้รถส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎจราจร อยู่บนความไม่ประมาทจะสามารถลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและลดการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนลงได้

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังมีความห่วงใยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนหลังจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีการพบปะสังสรรค์และกิจกรรมรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการประเมินว่าหลังสงกรานต์น่าจะมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น ดังนั้น ก่อนกลับเข้าทำงานตามปกตินั้นขอให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำของกรมควบคุมโรค

โดยให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองภายใน 7 วัน หลีกเลี่ยงสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หากเริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก ครั่นเนื้อครั่นตัว ให้ตรวจ ATK หากผลเป็นบวกก็ให้ปรึกษาแพทย์รักษาตามสิทธิเพื่อไม่ป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดในที่ทำงาน แต่ไม่แนะนำตรวจ ATK ในขณะที่ยังไม่มีอาการ

อย่างไรก็ตาม เพื่อรับกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมรองรับทั้งในส่วนของ ยา เวชภัณฑ์ รวมถึงเตียงผู้ป่วย ซึ่งสามารถรองรับไว้เพียงพอ ไม่เกินศักยภาพของโรงพยาบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น