"ฟิล์ม รัฐภูมิ"อัด"เศรษฐา"อย่าจุ้นนโยบาย พปชร.แนะ เอาเวลาไปตอบสังคมให้ได้ก่อน พท.จะเอาเงินจากไหนมาแจก ปชช.ย้ำ บัตรประชารัฐเน้นดูแลกลุ่มเปราะบาง ไม่ใช่แจกเรี่ยราด
วันนี้(15 เม.ย.)นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 22 (สวนหลวง-ประเวศ) หมายเลข 1 กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทว่า การที่นายเศรษฐา กล่าวว่า พปชร.จะใช้เงินงบประมาณมากถึง 8 แสนล้านบาทนั้น ตนไม่อยากเชื่อว่า คนระดับนายเศรษฐาจะออกมาให้ข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้เช่นนี้
นายรัฐภูมิ กล่าวต่อว่า ตนขอชี้แจงว่า บัตรประชารัฐนั้น จะเป็นสวัสดิการที่ดูแลคนไทยผู้เข้าหลักเกณฑ์ประมาณจำนวน 14 ล้านคน ไม่ใช่ 20 ล้านคน โดยตัวเลข 20 ล้านคนนั้น คือตัวเลขของผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด แต่หลังจากที่หน่วยงานราชการได้ทำการคัดกรองแล้ว พบว่ามีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเพียงประมาณ 14 ล้านคนเท่านั้น จากการวางหลักเกณฑ์ที่รัดกุม ยกตัวอย่างเช่น จะไม่ได้ดูเฉพาะตัวผู้ที่มาลงทะเบียนเท่านั้น แต่จะต้องดูรายได้รวมของคนในครอบครัวด้วย และผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือนั้นก็จะต้อง เป็นผู้ที่อยู่ใต้เส้นความยากจน หรือก็คือจะต้องมีรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อปี แตกต่างกับทางพรรคเพื่อไทยที่แจกทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะมีรายได้น้อย หรือคนรวยก็ได้รับเงินทั้งหมด
"พรรคพลังประชารัฐก็ได้คำนวณมาแล้ว การดูแลกลุ่มเปราะบางในส่วนนี้จะใช้งบประมาณอยู่ที่ 9,800 ล้านบาทต่อเดือน หรือไม่ถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี และเป็นการใช้เงินแบบทยอยใช้ ไม่ใช่การจ่ายหมดในครั้งเดียว จึงจะไม่มีปัญหาในเรื่องของการตั้งงบประมาณ โดยงบประมาณที่เราจะนำมาใช้ก็จะนำมาจาก กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม"นายรัฐภูมิ กล่าว
นายรัฐภูมิ กล่าวต่อว่า บัตรสวัสดิการของพรรคพลังประชารัฐแตกต่างจากการแจกเงินของพรรคเพื่อไทย ที่เราเน้นการช่วยเหลือแบบพุ่งเป้าไปยังกลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย เพราะพรรคพลังประชารัฐตระหนักดี ถึงการใช้เงินที่จะต้องใช้จ่ายให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะเงินที่ใช้นั้นเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แจกเงินแบบหว่าน แจกเงินให้แม้กระทั่งคนที่มีรายได้ดีอยู่แล้ว
"ผมขอแนะนำว่า นายเศรษฐาควรจะเอาเวลาไปดูแลนโยบายของพรรคตัวเองให้ไร้ข้อกังขาก่อนจะดีกว่า เพราะตอนนี้สังคมตั้งข้อสงสัยว่า ในการแจกเงินของพรรคเพื่อไทยนั้นจะเอาเงินมาจากไหน นี่คือคำถามที่นายเศรษฐาควรจะหาคำตอบให้คนไทยทั้งประเทศ และน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า มานั่งจับผิดนโยบายของพรรคอื่น"นายรัฐภูมิ กล่าว