xs
xsm
sm
md
lg

เจาะสนามเมืองหลวง “คลองเตย-วัฒนา” ใคร-พรรคใดได้ลุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หากให้สรุปสถานการณ์ในเขตคลองเตย-วัฒนา ก็จะพบว่าเป็นศึกหลายเส้าของ “คนกันเอง” โดยเฉพาะ “ผู้กองเอิร์ธ-จารย์เขต” ที่ต้องชิงแต้มขั้วอนุรักษ์นิยม” ขณะที่ “บิ๊กเบญ-หนุ่มต้า” ที่ต้องแย่งคะแนน “ฝ่ายซ้าย” กัน ส่วนแชมป์เก่า “กรณิศ” ก็ไม่ง่าย ที่ต้องสวม “เสื้อน้ำเงิน” ฝ่ากระแสเชี่ยวกรากของสองขั้ว

สนามเลือกตั้ง กทม. 33 เขตนั้น เป็นพื้นที่ซึ่งทุกพรรคการเมืองหวังปักธงได้ที่นั่ง ส.ส.เมืองกรุง ที่เป็นพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญ

พื้นที่หนึ่งที่มีการต่อสู้ดุเดือดมาทุกสมัย คือที่ เขต 4 “คลองเตย-วัฒนา” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถือว่าความหลากหลายลำดับต้น เพราะมีทั้งแหล่งธุรกิจ คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร ตลอดไปจนถึงชุมชน

เรียกว่าจะมาเป็น ส.ส.เขตนี้ต้องทำการบ้านหนัก เพราะชนะใจคนกรุงไม่ใช่เรื่องง่าย ลำพังจะอาศัย ”กระแส” เพียวๆ โดยไม่ลงพื้นที่นั้นก็ยากที่จะชนะ

หากให้มองไปยังแคนดิเดตที่มีโอกาสนั้น คงต้องเริ่มที่ “ส.ส.น้อง” กรณิศ งามสุคนธ์วัฒนา อดีต ส.ส.เขตนี้เมื่อสมัยที่ผ่านมา และยังเคยเป็น ส.ก.ในพื้นที่ งวดนี้ ”ส.ส.น้อง” สวมเสื้อพรรคภูมิใจไทย ในการลงสู้ศึกเพื่อกลับไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอีกครั้ง

ว่ากันตามเนื้อผ้า หากวัดกันด้วย “ประสบการณ์” คงต้องยกให้ “กรณิศ” ฟอร์มเหนือกว่าคู่แข่งที่ล้วนแล้วแต่เป็น “หน้าใหม” อยู่เป็นช่วงตัว ที่ผ่านมาในฐานะ ส.ส.จัดผลงานเด่นต่อเนื่องในพื้นที่ เช่น ผลงานช่วงโควิด, จัดระเบียบสายไฟฟ้า-สายสื่อสารลงดิน, ถนน-ทางเดิน และ ส่วนขยายต่อสวนเบญจกิติ-สวนเพลินจิต บวกกับแคมเปญเลือกตั้งหลายชิ้นของ “ภูมิใจไทย” ที่ค่อนข้างเอื้อต่อพื้นที่คลองเคย-วัฒนา

อย่างไรก็ดีตามบริบทการเมืองตอนนี้ ไม่ใช่งานง่ายสำหรับ “ส.ส.น้อง” เพราะ “ค่ายสีน้ำเงิน”กำลังอยู่ในช่วง”พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” แต่ดู “กรณิศ” ก็ไม่หวั่นไหว ยังคงเกาะติดพื้นที่ บวกเครดิตส่วนตัวในการทำงานสม่ำเสมอ

ถัดมาที่ ”ผู้กองเอิร์ธ” ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ที่ลงชิงชัยในสีเสื้อพรรคประชาธิปัตย์ รายนี้เรื่องหน่วยก้านหน้าตาไม่แพ้ใคร แต่ติดตรงไม่คุ้นพื้นที่ ต้องอาศัย “พี่เลี้ยง” จากเวทีท้องถิ่น ทั้งอดีต ส.ก.เขตวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ก.เขตคลองเตย คนปัจจุบันพาเดินลงพื้นที่

แล้วยังทำแฟนคลับฉงนไม่น้อย เพราะเดินหาเสียงเทคเครดิตเก่าสมัยพ่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม. แต่เลือกตั้งหนนี้คุณพ่อสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิลต์ “ค่ายลุงตู่” พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ “ลูกเอิร์ธ” ดันไปอยู่อีกพรรค จนกองเชียร์สับสนไม่รู้จะกาให้พรรคไหน

ทว่าในพื้นที่ก็รู้กันดีว่าที่ “พงศกร” ไม่ลง ส.ส.พรรคลุงตู่ ก็เพราะจำเป็นต้องแยกกันเดินกับ “พ่อวิน” เพื่อหวังคะแนนเสียงของ “ส.ก.คนหนึ่ง” ซึ่งเป็นคนสนิทของ”ผู้กองคนดัง” ที่ผีไม่เอาเงาไม่เหยียบกับ “นายกฯลุงตู่” นั่นเอง

ล่าสุดมีประเด็นสังคมที่ร้อนแรงเข้ามาอีก เมื่อ “ผู้กองเอิร์ธ” ไปพูดในเวทีหาเสียงเลือกตั้ง “สนับสนุนให้การค้าประเวณีถูกกฎหมาย ต้องนำธุรกิจเหล่านี้ขึ้นมาบนดิน” แบบไม่สนใจกระแส-ฐานเสียงในพื้นที่ และไม่รู้ว่าได้ปรึกษาหารือกับ "ผู้อาวุโส" ใน “ค่ายสีฟ้า” ที่แม้ชูสโลแกน "สร้างงาน สร้างเงิน สร้างชาติ" แต่ก็ไม่มีนโยบาย SEX WORKER อยู่ในข่าย

แถมถ้าดูผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.งวดล่าสุด ที่ “พ่อวิน” แพ้หลุดลุ่ยมาประกอบ ดูท่า “ผู้กองเอิร์ธ” คงเหนื่อยน่าดู

ต่อกันที่ “หนุ่มต้า” ภัณฑิล น่วมเจิม จากพรรคก้าวไกล ที่คงเหมากระแสสังคม-คนรุ่นใหม่ ถึงขั้นหลายๆคนแซวว่า พรรคนี้ส่ง “เสาไฟฟ้า” ลงสมัครก็นอนเข้าป้ายแบบไม่ต้องเดินเยอะ ทำให้หลายๆคนแย่งกันเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม. ให้กับ “ค่ายสีส้ม” จนเกิดปัญหาทำเอา “คนอนาคตใหม่” หลายคนยุติบทบาท เพราะไม่เห็นด้วยแนวทาง “อนาคตใหม่ เฟส 2” ทั้งการคัดเลือกผู้สมัครบวกกับ “ภาวะเสี่ยง” ที่แกนนำพรรคแสดงออก

กับปัญหาเดิมๆ เกี่ยวกับ “ระบบส่งกำลังบำรุง” ที่แกนนำพรรคให้คนการเมืองค่ายนี้ดูแลตัวเอง แล้วยังต้องปะทะโดยตรงกับ “ค่ายสีแดง” พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศแลนด์สไลด์ ซึ่งคู่แข่งหลักก็คือ พรรคก้าวไกล

มาถึง “บิ๊กเบญ” นวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล จากพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงคลองเตย และเลือกตั้ง 2562 วืดไปกับพรรคต้นสังกัด รอบนี้ข่าวว่า “บิ๊กเบญ” ฉุนจัดถึงขั้นแค้นฝังหุ่น “ผู้กองเอิร์ธ” และ “ส.ก.ต่าย คลองเตย” ที่เคยเป็นคนกันเอง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมา แต่ดันผิด “สัญญาลูกผู้ชาย” เพราะมาลงแข่งแย่งฐานเสียงกันเอง

ย้อนไปสมัยเลือกตั้ง ส.ก. “บิ๊กเบญ” และคนเสื้อแดงถือเป็นฐานสำคัญที่ส่ง ”ต่าย คลองเตย”เข้าไปเป็น ส.ก. ทั้งที่ “กลุ่มรักษ์กรุงเทพ” ของ “ผู้ว่าฯอัศวิน” แทบไม่มีแต้ม แต่วันนี้กลับไปหนุน “ผู้กองเอิร์ธ”

เท่ากับว่าฐานเสียงของ “ส.ก.ต่าย” ที่สนับสนุน “ผู้กองเอิร์ธ” คงไม่พ้นกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ ที่ย้อนแย้งกับต้นสังกัด “ค่ายสีฟ้า” เสียงส่วนนี้ก็น่าจะเทกลับมาที่ “บิ๊กเบญ” ตัวแทนค่ายสีแดงตัวจริง แต่ไม่รู้จะเพียงพอส่ง “บิ๊กเบญ” เข้าสภาฯได้ไหม

ส่วนรายของ “จารย์เขต” เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ จาก “ค่ายลุงตู่” พรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่งย้ายมาจาก “ค่ายกำนัน” พรรครวมพลัง ที่งวดก่อนได้เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ งวดนี้อาสามาลงเขตคลองเตย-วัฒนา หวังเกาะกระแส “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าสภาฯอีกหน

แต่จนถึงวันนี้กระแส “ลุงตู่” ยังไม่กระเตื้อง โอกาสของ “เขตรัฐ” และพรรครงมไทยสร้างชาติคราวนี้ น่าจะไม่เหมือนกระแส “เลือกสงบจบที่ลุงตู่” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว

เพราะเท่าที่สดับคนกรุงส่วนใหญ่สะท้อนความรู้สึกในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาผ่านโพลหลายสำนักไม่เป็นบวกกับ “ลุงตู่” และยังสะท้อนผ่านความพ่ายแพ้ของ “อัศวิน” ในสนามผู้ว่าฯกทม.ด้วย

ไม่เท่านั้น “เขตรัฐ” ยังต้องมาแย่งคะแนนฐานเสียงกันเองกับ “ผู้กองเอิร์ธ” อีก คงยากที่ “ลูกอาจารย์เอนก” จะแจ้งเกิดในฐานะ ส.ส.เขต ได้

ขณะที่ “ค่ายลุงป้อม” พรรคพลังประชารัฐ ส่ง “ไปป์” ภูวกร ปรางภรพิทักษ์ ที่เคยอกหักจากเลือกตั้ง ส.ส.งวดที่แล้วแต่ต่างสีเสื้อ คราวนี้ “ภูวกร” ที่ขายความเป็น “คนพื้นที่” คงลงสมัครเพื่อช่วยดึงคะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้ “ค่ายลุงป้อม” ได้พอชื่นใจบ้างเท่านั้น แต่จะหวังลุยถึงขั้นแย่งเก้าอี้ ส.ส.มาครองยาก ทำนองเดียวกับ “ซิม” ศรัณยภัคร สุนทรปิยะกุลพัศ ของพรรคไทยสร้างไทย ที่ลงแข่งขันเพื่อหวังแต้มบัญชีรายชื่อเท่านั้น

หากให้สรุปสถานการณ์ในเขตคลองเตย-วัฒนา ก็จะพบว่าเป็นศึกหลายเส้าของ “คนกันเอง” โดยเฉพาะ “ผู้กองเอิร์ธ” ที่ต้องชิงแต้มกับ “จารย์เขต” โดยมี “ไปป์-ภูวกร” มาร่วมวงศ์ไพบูลย์ “ขั้วอนุรักษ์นิยม” ด้วย ขณะที่ “บิ๊กเบญ-หนุ่มต้า” ที่ต้องแย่งคะแนน “ฝ่ายซ้าย” กัน

ไม่เท่านั้น “บิ๊กเบญ” ยังต้องมาไฝ้วกับ “ผู้กองเอิร์ธ” แบบส่วนตัวอีก ที่อาจเปิดทางให้คู่แข่งรายอื่นๆสะดวกขึ้นหลายดีกรีในพื้นที่นี้

ส่วนแชมป์เก่า “กรณิศ” ก็ไม่ง่าย ที่ต้องสวม “เสื้อน้ำเงิน” ฝ่ากระแสเชี่ยวกรากของสองขั้วการเมือง

เทียบฟอร์มชั่วโมงนี้คงต้องบอกว่า โอกาสของ “ส.ส.น้อง-หรณิศ” ยังเหนือคู่แข่ง แต่จะประมาทไม่ได้แม้เพียงชั่วกระพริบตา

ฉะนั้นแคนดิเดตผู้แทนฯคลองเตย-วัฒนา ใครได้ลุ้น ใครมีเสียวกันบ้าง ....เวลาที่เหลืออยู่จะเป็นจุดวัดใจว่าใครจะเป็นหนึ่งเดียวของเขตนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น