ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ธรรมนัส vs เสธ.หิ เพื่อนรักหักเหลี่ยม มวยรู้ไส้ ประดาบ วัดกำลัง ลุงป้อม-ลุงตู่
เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาทันที เมื่อ "ผู้กองธรรมนัส" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัครส.ส.พะเยา และประธานประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ ของ"ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคลื่อนไหวผ่านสื่อโซเชียลฯ ด้วยวิธีตะโกนร้องฟ้องชาวโลกว่า บรรดากำนันผู้ใหญ่บ้านที่พะเยา "ถูกข่มขู่" โดย "กองกำลังทหาร" ที่เป็น "ลูกน้องเสธ.คนดัง"
ฟังที่ “ธรรมนัส”โพสต์จับใจความได้ว่า หลังจากที่เดินทางไปปราศรัยช่วยผู้สมัครหลายๆ จังหวัดติดต่อกัน พอขึ้นมาทางเหนือถิ่นฐานบ้านตัวเอง เจอกับบรรดาผู้นำท้องถิ่นทั้งหลาย ปรากฏว่า ตอนนี้วิตกกังวลในความปลอดภัย หลังจากถูกเรียกเข้าไปบ้านใหญ่"เจ๊ ล." ขาใหญ่อำเภอปง จ.พะเยา ซึ่งเป็นพี่สาว ผู้สมัครส.ส. พะเยา เขต 3 ของพรรคหนึ่ง ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล กร่าง โชว์พาวให้รู้บารมี ไผเป็นไผ
“ธรรมนัส” อ้างว่า ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่มาเล่าให้ฟังว่า พอไปถึงบ้านเจ๊ ล. ก็มีกองกำลังทหารเกือบ 1 หมวด พกอาวุธปืนสั้น ภายใต้การควบคุมของ “เสธ. น.” ลูกน้อง “เสธ. นอกราชการคนดัง” และ "ข่มขู่" ว่าจะจัดการกับผู้นำขั้นเด็ดขาดหากไม่ช่วยผู้สมัครรายนี้ จะเริ่มปฏิบัติการโดยใช้กองกำลังทหารค้นบ้านผู้นำทุกราย ที่เห็นต่าง
"ทหารเข้ามาในพื้นที่บ้านเกิดผม และมาข่มขู่พี่น้องชาวพะเยาของผม ผมว่ามันมากไปแล้ว ผมจะไม่ยอมปล่อยให้พวกคุณทำอย่างนี้อีกแน่นอน" ธรรมนัส กู่ก้องในโพสต์
แน่นอนว่า เสียงของ “ธรรมนัส” โวยและดูเหมือนขึงขังจะเอาเรื่อง ก็ลอยดังไปเข้าหู เสธ.คนดัง "เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ที่เป็นผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นคู่แข่งกันโดยตรง
ฟังว่า "เสธ.หิ” ไม่รู้ว่า ธรรมนัสหมายถึงใคร? แต่หากสงสัยว่าเป็นตัวเอง ก็ขอยืนยันว่าไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ข้องแวะ จะมีแค่วันก่อนเดินทางไปที่เชียงราย เพื่อเตรียมหาเสียงและนั่งรถลงพื้นที่ไปที่พะเยา เพื่อไปพบกับผู้สมัครของพรรค แค่เพียง 30 นาที ก่อนที่จะมีดีเบต
จากนั้นหลังดีเบต ก็ได้คุยกับผู้สมัคร และไปที่บ้านของผู้สมัครเพื่อพูดคุยเรื่องการวางแผนหาเสียง และข้อมูลต่างๆ แล้ว ก็เดินทางกลับมานอนที่เชียงราย
“เสธ.หิ” กางไทม์ไลน์ตัวเอง ต้องการจะสื่อความว่า ไม่มีเวลาจะไปไหนเลย แล้วจะไปขู่ใครได้ แล้วใครจะไปกล้าขู่คนของ "ท่านร้อยเอกธรรมนัส" ตัวเองก็เป็นเพื่อนกัน ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้ว่ากันไป
สรุปว่า งานนี้ “ธรรมนัส กับ เสธ.หิ” ถึงคราเพื่อนรักหักเหลี่ยม แยกกันเดินทำงานให้พรรคค่ายต่างกัน หนึ่งนั้นเป็นมือเป็นไม้ให้ “พรรคลุงป้อม” ส่วนอีกหนึ่ง ก็เป็นมือทำงานให้ “พรรคลุงตู่” ใครจะมียุทธวิธีอย่างไร ก็รู้ๆ กันอยู่ เปรียบเป็นมวยรู้ไส้รู้พุง ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ และเมื่อนอมินีลุงๆ ก่อสงครามประดาบในสนามรบ นั่นย่อมหมายถึงการวัดกำลังกันระหว่าง “ลุงป้อม-ลุงตู่” ศึกเลือกตั้งหนนี้ ไม่มีพี่ไม่มีน้องหรือไม่...โปรดติดตามกันนะจ๊ะ.
**กกต.หนีร้อน!! แห่ดูงานต่างประเทศ จะกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาอีกทีก็ช่วงปลายเดือน
จะด้วยอากาศร้อนเดือนเมษาฯ ฤดูสงกรานต์ หรือว่ามีแต่เรื่องร้อนๆ ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ที่แต่ละพรรคเล่นกันแบบคาบลูกคาบดอก เกทับบลัฟแหลก หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายให้กกต.ต้องวินิจฉัย ชี้แจง
อย่างเช่น นโยบายหาเสียงประชานิยม ของพรรคการเมืองที่จะแจกเงินคนละเท่านั้น เท่านี้ จริงๆ แล้วทำได้หรือเปล่า ถ้าจะเสนอเป็นนโยบาย ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง รวมทั้งมีข้อเรียกร้องให้ กกต.พิจารณา ขยายระยะเวลาการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มเติม เนื่องจากวันสุดท้ายของการลงทะเบียน เกิดปัญหาระบบล่ม ทำให้มีผู้ต้องการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ตกค้างเป็นจำนวนมาก
แต่ตอนนี้ กกต.ทั้ง 6 คน บินไปต่างประเทศกันหมด โดยมีข้ออ้างที่คนฟังต้องส่ายหน้า ว่าไปดูความเรียบร้อยของการเตรียมการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
ทั่น กกต.ทยอยเดินทางไปตั้งแต่ วันที่ 4 เม.ย. โดย“นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์” และ “นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี” ไปประเทศฮังการี และสโลวะเกีย
“นายอิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. เดินทางไปประเทศแอฟริกา “นายปกรณ์ มหรรณพ” ไปประเทศเยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์
“นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ” เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และ “นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ” เดินทางไปนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
และจะเริ่มทยอยเดินทางกลับมา ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. เป็นต้นไป ส่วนกำหนดนัดประชุม กกต.ครั้งต่อไป ก็โน่นวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งจะเหลือเวลาอีกเพียง19 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้ง ดังนั้นเรื่องขยายเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า คงหมดสิทธิ์แล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูลจากที่สำนักงาน กกต. สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียน ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร ในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค. ที่เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ถึง 9 เม.ย.66 มีผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งล่วงหน้า จำนวนทั้งสิ้น 2,350,969 ราย
เป็นการขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง 2,216,950 ราย ขอใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง 18,880 ราย และขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร 115,139 คน
แน่นอนว่า ทุกสิทธิ ทุกเสียง มีความหมาย มีความสำคัญ และรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ให้มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร แต่การไปของ กกต.ครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติที่ถูกกาละ เทศะ หรือไม่ จำเป็นต้องออกไปพร้อมกันทั้ง 6 คน หรือไม่ เพราะการไปของแต่ละคน ก็ต้องใช้งบประมาณสูง
ในอดีตจะใช้กกต.เพียง 2-3 คนเท่านั้นที่ไปทำภารกิจนี้ และเวลาที่ไปก็ควรเป็นเวลาที่ใกล้เลือกตั้ง มีการส่งบัตรเลือกตั้งไปแล้ว หรือช่วงเวลาที่สถานทูตกำหนดให้มาใช้สิทธิ์ ก็ดูจะสมเหตุสมผล และเป็นประโยชน์มากกว่า
นี่บัตรเลือกตั้งก็ยังไม่ได้พิมพ์ ประเด็นปัญหาเฉพาะหน้า ที่พรรคการเมืองรอความชัดเจนจากกกต.ก็มีเข้ามาแทบทุกวัน หากจะบอกว่า ยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี ถ้ามีเรื่องจำเป็น เร่งด่วน ก็ใช้วิธีการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ได้ คำถามคือ แล้วจะมีการประชุมด้วยวิธีนี้กันจริงหรือไม่ หรือเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาตอนนี้ ไม่มีเรื่องจำเป็น เร่งด่วนเลย ...หรือนี่เป็นกับดักอย่างหนึ่ง !!
ดังนั้นช่วงนี้ คนที่เป็นใหญ่ เป็นหนังหน้าไฟ ที่สำนักงานกกต. ก็คงหนีไม่พ้น “แสวง บุญมี” เลขา กกต.