มท.รับลูก กกต. แจ้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ระงับ! การฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนา ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง หวั่นสร้างโอกาสให้เกิดความได้เสีย ไม่ทัดเทียมกันก่อนการเลือกตั้ง กระทบระเบียบฯ ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐ ส่วนเวทีที่ได้รับงบฯ จำเป็นเร่งด่วนให้ดำเนินการโดยปกติ
วันนี้ (12 เม.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเสือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือแจ้งมายัง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนา ส่งผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด
ภายหลัง สถ.ได้สอบถามแนวทางการปฏิบัติ ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง สรุปได้ว่า เมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามเงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
ซึ่งตามมาตรา 169 (4) ได้กำหนดว่า ครม. ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง และไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้าม ตามระเบียบ กกต.กำหนด
โดยได้ออกระเบียบฯ ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใด ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. 2563 กำหนดข้อห้ามในการปฏิบัติหน้าที่ของ ครม.ไว้ และมีผลใช้บังคับแล้ว
ซึ่งตามข้อ 5 (3) ของระเบียบดังกล่าวกำหนดว่า ในระหว่างที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร เช่น วิธีการกำหนด สั่งการ หรือมอบหมายให้ มีการประชุม อบรม หรือสัมมนาบุคลากรของรัฐหรือเอกชน โดยใช้เงินงบประมาณของหน่วยงานของรัฐ หรือ เงินของกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่
โดยอาจให้มีการแจกจ่ายทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เว้นแต่เป็นการประชุม ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐหรือประชาชน แต่ต้องมิใช่เป็นการสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง
“รวมถึงการฝึกอบรม หรือ ประชุมสัมมนาของส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง และจนกว่า ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่”
หากการฝึกอบรม หรือประชุมสัมมนาดังกล่าว มิใช่การกำหนด สั่งการ หรือมอบหมายให้มีการประชุม อบรม หรือสัมมนาของ ครม. หรือเป็นการประชุมตามระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนด
หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐหรือประชาชน และมิใช่เป็น การสร้างโอกาสให้เกิดความไม่ทัดเทียมกันในการเลือกตั้ง ก็สามารถจัดการฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนาในช่วงดังกล่าวได้
แต่ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือ และสนับสนุนการดำเนินการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย.