ชพก.ชูทุ่มพันล้าน ดันจังหวัดผุดแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธา หวังดึงนทท.ต่างชาติ โกยรายได้เข้าปท.

ชพก. ลุยอยุธยา ชมโมเดลเศรษฐกิจสายมู โชว์นโยบายพรรคทุ่ม 1,000 ล้าน ผุดแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธาในจังหวัด หวังดึง นทท.ต่างชาติ โกยรายได้เข้าประเทศ พร้อมชูโรงบ่มเพาะวิสาหกิจ ลดความเสี่ยง SMEs สู้รายใหญ่ สร้างงาน สร้างอาชีพ

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 66 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย น.ส.ยศยา ชิยาปภารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เบอร์ 2 เขตบางนา พระโขนง ลงพื้นที่พุทธอุทยานมหาราชหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเยี่ยมชมต้นแบบการท่องเที่ยงเชิงศรัทธา รวมถึงเศรษฐกิจชุมชน ที่นำสินค้าจากชาวบ้านมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว โดยมีนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ นายก อบต.บ้านใหม่ และประธานโอทอป เทรดเดอร์ ประเทศไทย ให้การต้อนรับ นำเยี่ยมชมพื้นที่ และร่วมให้ข้อมูลการก่อตั้งพุทธอุทยานดังกล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบัน “มูเตลู” กำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจสายมู ถือเป็นนโยบายหลักของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่จะมาสนับสนุนการท่องเที่ยวจากแรงศรัทธาในจังหวัดต่างๆ ผ่านการจัดสรรงบประมาณจังหวัดละ 1,000 ล้านบาท ให้นำไปพัฒนาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ แหล่งชอปปิ้ง และแหล่งอาหารอร่อยขึ้นชื่อ ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับชุมชน และทำรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล

“พุทธอุทยานมหาราชหลวงปู่ทวดฯ จ.อยุธยา เมื่อก่อนเป็นท้องนาโล่งกว้าง ไม่มีอะไรเลย แต่นายวัชรพงศ์ มีไอเดียพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศรัทธา เปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะบูชาหลวงปู่ทวด โดยมีสินค้าจากชาวบ้านมาวางขายให้กับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ต่อปีหลายล้านบาท นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ภายในจังหวัด และแวะรับประทานอาหารอร่อยขึ้นชื่อของจังหวัดได้ด้วย กลายเป็นเศรษฐกิจสายมู ที่ทำรายได้ให้กับ จ.อยุธยา ที่กระจายไปยังชุมชนต่างๆ ซึ่งต้นแบบนี้ทางพรรคฯ ต้องการให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองรอง”

น.ส.ยศยา กล่าวว่า ประเทศไทยมีศิลปวัฒนธรรม เมื่อพรรคชาติพัฒนากล้า มีนโยบายมีการนำองค์ความรู้ ภูมิปัญญาทางธุรกิจ ทางเศรษฐศาสตร์มาต่อยอดสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับชุมชน ซึ่งนอกจากรายได้ที่ได้จากนักท่องเที่ยวคนไทยแล้วยังมาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย ทำให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น สอดคล้องกับสโลแกนพรรคชาติพัฒนากล้า “งานดี มีเงิน ของไม่แพง” ซึ่งทั้งหมดนี้เรามีโมเดลอยู่แล้ว พรรคจะเดินหน้าสร้างให้เกิดขึ้นทั่วประเทศทันทีที่มีโอกาสได้เข้าไปเป็นรัฐบาล

ทั้งนี้ นายวัชรพงศ์ ยังได้นำเยี่ยมชมห้องพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ของ อบต.บ้านใหม่ หรือ Cloud Factory ที่เปิดให้ชาวบ้านสามารถมาวัตถุดิบมาผลิตสินค้าของตัวเอง โดยที่ศูนย์มีอุปกรณ์การผลิตทุกชนิดที่ภาครัฐลงทุนให้ อาทิ เตาแก๊ส ตู้เย็น ตู้แช่ ภาชนะ เตาอบ เตาไมโครเวฟ เครื่องทำไอศรีม เครื่องบรรจุภัณฑ์สารพัดชนิด ซึ่งมีทั้งแบบสูญญากาศ บรรจุไนโตรเจน ตลอดจนการขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารและยา (อย.) ให้กับชาวบ้านด้วย

นายวรวุฒิ กล่าวว่า โรงบ่มเพาะวิสาหกิจ จะเป็นตัวสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้รายละ 500,000 -1,000,000 บาท เป็นการลดภาระความเสี่ยงในการลงทุน นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับคุณภาพการผลิตสินค้าชุมชนให้มีมาตรฐานสูงขึ้น และเป็นไปตามมาตรฐานกฎหมาย สามารถแข่งขันกับรายใหญ่ได้ สอดคล้องกับนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้าที่ต้องการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการตัวเล็กให้สู้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง โดยไม่ต้องรอรับการแจกจากภาครัฐ หรือรอนโยบายประชานิยม