“พปชร.กรุงเก่า” พร้อมเต็มแม็กหลังได้เบอร์ เชื่อชูก้าวข้ามตความขัดแย้งมาถูกทาง ส่ง “ลุงป้อม” ถึงเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 วอนทุกพรรคหาเสียง สู้กันตามกติกา แข่งกัรด้วยนโยบาย อย่าใช้เกมใต้ดิน
วันนี้ (3 เม.ย.66) นายชณทัต ปัทมะภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 6 กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าทีมหาเสียง จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคพลังประชารัฐ เพราะ จ.อยุธยามี 5 เขตเลือกตั้ง ตนยืนยันว่าผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 คนของพรรคพร้อมเต็มแม็กในการทำงานให้ประชาชน โดยวันที่14 พ.ค.ขอให้ชาวอยุธยาลงคะแนนให้พรรคทั้ง 5 เขตเพื่อให้โอกาสพวกตนได้ทำหน้าที่ ส.ส.และนำนโยบายพรรคที่หาเสียงไว้ เช่น เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการเเห่งรัฐเป็น 700 บาท/เดือน, การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุตั้งเเต่ 60 ปีขึ้นไป ตามขั้นบันไดสูงสุด 5,000 บาท/เดือน, การแก้ไขปัญหาที่ดินเเละแหล่งน้ำ, งบการดูแลสตรีขณะตั้งครรภ์เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือน, งบอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 3,000 บาท จำนวน 6 ปี, สวัสดิการกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ผู้ช่วยสารวัตร และ อสม. ไปปฏิบัติ
นายชณทัต กล่าวว่า รวมทั้งแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่ได้แจ้งกับสังคมไปแล้ว และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากชาวอยุธยา เพราะหลายสิบปีที่ผ่านมาการเมืองแบ่งขั้วแบ่งสีกันจนบ้านเมืองชะงักงันไปหลายเรื่อง และตอนนี้ส่อแววเริ่มขัดแย้งกันอีก แต่ตนเชื่อมั่นว่า แนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งตามที่พล.อ.ประวิตรได้มอบให้พรรคใช้เป็นนโยบายพรรคนั้น สังคมจะตอบรับเป็นอย่างดี และจะไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ได้
นายชณทัตกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ขอฝากไว้กับผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคต่างๆด้วยว่าขอให้แข่งขันด้วยความสุจริต อย่าเล่นเกมใต้ดิน เพราะพวกตนยืนยันจะเคารพกฎหมายทุกประการ การแข่งขันควรใช้นโยบายพรรค และความจริงใจในการทำงานของผู้สมัคร ส.ส.ให้ประชาชนตัดสินจะดีที่สุด นักการเมืองอย่าทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายด้วยวิธีใต้ดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา พรรคพลังประชารัฐทั้งห้าเขตนั้นประกอบด้วย เขต 1 นายบุญเชิด ศิริยศ หมายเลข 6, เขต 2 นายธนพล บุญเจริญกิจ หมายเลข 6, เขต 3 นายชณทัต ปัทมะภูวดล หมายเลข 6, เขต 4 นายพิตติพรรธน์ พรรณธนะ หมายเลข 2 และเขต 5 นายภูมินทร์ มงคลกาย หมายเลข 10.