“ประยุทธ์” แจงปมไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ หวังส่งไม้ต่อให้ “พีระพันธุ์” หลังได้นั่งนายกฯ อีก 2 ปี ปัดมอง “บิ๊กป้อม” เป็นคู่แข่งแค่แยกมาอยู่คนละพรรค โอดบังคับใครไม่ได้ แค่พรรคตัวเองก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ตบปากคนแซะต้นเหตุสภาล่ม เป็นผู้ใหญ่แล้วพูดจาให้ระวัง
วันนี้ (3 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ว่า ก็ดี มาครั้งแรกก็เรียบร้อยดีไงเล่า ไม่มีใครทะเลาะกัน ไม่มีใครใช้ความรุนแรงต่อกัน แถมอยู่คนละพรรคก็มาทักทายกัน สวัสดีกัน ทุกคนก็คือคนไทยด้วยกัน บางคนก็คุ้นเคยกัน ก่อนหน้านี้ตนก็รู้จักกับแกนนำพรรคหลายคน คุ้นเคยกัน
อย่างไรก็ตาม หลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะอยู่กันคนละพรรคแต่ความผูกพันส่วนตัวไม่มีปัญหา ความเป็นเพื่อน ความคุ้นเคย การทำงานร่วมกัน แต่การที่เขาจะเลือกพรรคไหนก็เป็นเรื่องของเขา ก็เพียงแต่ขอว่าให้ทุกคนช่วยกันทำเพื่อบ้านเมือง ถ้าหวังแต่เพียงหาเสียง สมมติว่าได้จากนโยบายที่หาเสียง แล้วทำไม่ได้จะตอบประชาชนว่ายังไง บางอย่างที่ตนกลัวว่ามันอันตรายพอสมควร เช่น การใช้จ่ายงบประมาณ ถ้าทำตรงนี้ต้องบอกว่ารายได้จะเอามาจากไหน บางนโยบายล่อไป 9 แสนล้านบาท จะเอามาจากไหนนี่คือสิ่งที่อันตรายและต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ตอนที่นั่งติดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้างหรือไม่ ก็พูดคุยกันไป สนุกสนานกันไป เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มาในฐานะคู่แข่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นแข่งอะไรกับใครเลย เมื่อกี้นั่งคุยกัน ก็แหย่กันไปแหย่กันมา ท่านก็ทำของท่าน ตนก็ทำของตน แต่ให้รู้ว่าวันนี้เราอยู่คนละพรรคแล้ว ส่วนจะคิดว่าจะรวมกันวันหน้าหรือเปล่า ตนก็แจ้งแล้วว่าตนแยกมา แยกก็คือแยก ไม่อย่างนั้นตนจะมานั่งสัมภาษณ์ตรงนี้ทำไม ก็ให้พล.อ.ประวิตรสัมภาษณ์สิ พรรคตนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พลเอก ประวิตร ได้โพสต์ ตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต้องลง ส.ส. บัญชีรายชื่อถึงจะสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครจะว่าอะไรก็ว่าไปตนมองในเรื่องของการให้โอกาสคนอื่นเขาขึ้นมาเป็นบ้าง ตนก็เลยให้ นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 เพราะมีผลกับการอยู่ 2 ปีของตน หลายคนถามว่าตนอยู่ 2 ปีแล้วจะเป็นยังไง ก็นั่นไงคือคำตอบ ซึ่งเป็นตัวเลือกในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ถ้าตนได้อยู่ 2 ปี ก็จะมีคนสานต่อตรงนี้ ทุกอย่างมันคือยุทธศาสตร์ยุทธศาสตร์คือโทษระยะยาวไป
เมื่อถามว่า มั่นใจว่า จะได้เป็นแกนนำจะต้องรัฐบาลแน่ใช่หรือไม่ ก็ได้ประยุทธ์ กล่าวว่า มั่นใจตรงไหนวะ ตนพูดว่าแค่ได้เป็น เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้เช่นนั้น ต้องเข้าใจว่าตนมีภาระหลายอย่างและมีบทเรียนมาแล้วเรื่องการที่หลายคนพูดว่าเป็นคนทำให้สภาล่ม มันใช่ไหมล่ะ คนเราเป็นผู้ใหญ่แล้วพูดจาให้ระมัดระวังบ้างหลายคนมาโทษนายกฯ ในเมื่อวันนั้นตนก็ไม่ใช่ ส.ส. หรือสมาชิกพรรคกับพรรคใดเลย ตนถูกเลือกโดยมีพรรคการเมืองสนับสนุน แล้วตนบังคับ ส.ส. ได้ไหม ถ้าบังคับได้ตนก็อยู่พลังประชารัฐแล้วมั้ง ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ดีนะ เพราะตนบังคับให้เขาทำสิ่งดีๆ เขาก็เฉยๆ แต่ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ดีนะ แต่หลายอย่างมันไม่ตรงกัน ตนก็เลยมาอยู่กับนายพีระพันธ์ุเพราะมีเจตนาที่ตรงกัน ว่าเราจะเดินหน้าประเทศไทย อย่าคิดว่า ได้เงินเท่าไหร่ในการเลือกตั้ง