“อรรถวิชช์” อัด กกต.จงใจสลายเขต ใช้ระเบียบส่วนต่างเกินขอบเขต แบ่งเขตขัดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ย้ำ ถ้าต้องแบ่งเขตใหม่อีกรอบ ไม่กระทบวันเลือกตั้ง ศาลปกครองนัดอ่านคำพิพากษา 7 เม.ย.นี้
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า ตนได้ให้ข้อมูลต่อศาลว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งของกรุงเทพมหานคร ต้องยึด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 27(1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ “รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตเลือกตั้ง” ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีอำเภอหลักอยู่ในเขตเลือกตั้ง แต่ กกต. ใช้หลักเกณฑ์การคิดคำนวณ ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ใน กทม. 33 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่เหมือนเดิม 29 เขตเลือกตั้ง
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของ กกต. ถือเป็นการทำลายระบบตัวแทน ทำให้ความผูกพันระหว่าง ผู้แทนราษฎร กับ ประชาชนในพื้นที่ห่างออกไป กกต.ใช้หลักเอาผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเฉลี่ย ต่อจำนวน ส.ส.1 คน เป็นตัวตั้ง ซึ่งเกณฑ์ 10 เปอร์เซ็นต์มีมานานแล้วใช้กับต่างจังหวัด แต่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกกับ กทม. และที่น่าแปลกใจ คือ ในการชี้แจงของ กกต.วันนี้ พบว่า กกต.ไม่ได้ใช้เกณฑ์ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ใช้เกณฑ์ 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ
“หากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะไม่มีผลกระทบต่อกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 66 เพียงแต่มีผลต่อการทำไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคการเมือง และการรับสมัครการเลือกตั้ง ซึ่งสามารถเลื่อนไปวันที่ 14-18 เม.ย. 66 และขยายวันเลือกตั้งล่วงหน้าออกไป ก็ยังอยู่ในกรอบเวลา แต่วันเลือกตั้งไม่ขยับ” ดร.อรรถวิชช์ กล่าว
ทั้งนี้ รองหัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว กกต.มีเป้าหมายทำให้เขตเลือกตั้งเดิมทั้งหมดถูกสลายไป จากนี้ต้องวัดใจว่า ศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยตาม กกต.หรือไม่ แต่สำหรับพรรคการเมือง พวกเรามองว่า นี่ไม่ใช่วิถีทางที่จะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เพราะเป็นการทำลายระบบตัวแทน โดยศาลปกครองนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ และนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 7 เม.ย.นี้