พบเบาะแสว่ามี “ผู้ส่งออกไก่” บางรายอาจจะมีการสวมสิทธิ์โควตาในการส่งออกไก่ไปยังต่างประเทศ ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตของคนในวงการว่า อาจมี “บิ๊กข้าราชการบางคน” ในกรมปศุสัตว์ ดำเนินการธุรกิจส่งออกไก่เอง โดยที่ “ผู้ทรงอิทธิพลในกระทรวงเกษตรฯ” ก็รู้เห็นเป็นใจ
กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าวงการส่งออกไก่-ชิ้นส่วนไก่ ไปต่างประเทศ เมื่อ “กลุ่มผู้เลี้ยงไก่” ได้ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อมวลชน ขอให้ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “รัฐมนตรีต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการทำงานของ “กรมปศุสัตว์”
เนื่องจาก “กรมปศุสัตว์” ในฐานะ “หน่วยงานต้นน้ำ” ที่ต้องทำหน้าที่ดูแล และให้ความช่วยเหลือ “ผู้เลี้ยงไก่” ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งสนับสนุนการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังต่างประเทศ กลับกลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้ “ผู้เลี้ยงไก่” ไปไม่ถึง “ปลายน้ำ” เสียเอง
จากพฤติการณ์ของข้าราชการกรมปศุสัตว์ “บางคน” ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบฟาร์มหรือโรงเชือดไก่ นอกเหนือจากจะไม่ส่งเสริมสนับสนุนแล้ว ยังข่มขู่คุกคามจนทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไม่สามารถส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้
ทั้งๆที่อาชีพการเลี้ยงไก่ เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล และอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากโควิด มีออเดอร์รับซื้อจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังประเทศไทยจำนวนมาก
และยังพบเบาะแสว่ามี “ผู้ส่งออกไก่” บางรายอาจจะมีการสวมสิทธิ์โควตาในการส่งออกไก่ไปยังต่างประเทศ ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตของคนในวงการว่า อาจมี “บิ๊กข้าราชการบางคน” ในกรมปศุสัตว์ ดำเนินการธุรกิจส่งออกไก่เอง โดยที่ “ผู้ทรงอิทธิพลในกระทรวงเกษตรฯ” ก็รู้เห็นเป็นใจ
โดยปัจจุบันตลาดการส่งออกไก่ที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือ ตลาดในประเทศจีน ที่มีข้อตกลงระหว่างรัฐไทย-จีนที่เข้มงวด แต่กลับมีการปล่อยปละละเลยให้เกิด “แก๊งสวมสิทธิ์” โควต้าผู้ส่งออกในประเทศไทยที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทางการจีน โดยใช้กลไกอำนาจของกรมปศุสัตว์กีดกันไม่ให้บริษัทนั้นๆ นำไก่ออกจากฟาร์ม หรือบล็อกกระบวนการผลิตในโรงงาน อ้างว่าไม่ได้มาตรฐาน
ก่อนที่จะไปใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือข่าย สวมแทนโควตาที่ “ฮุบ” มาเพื่อส่งไก่หรือชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีน โดยนำผลิตภัณฑ์มาจากต่างประเทศมา “รีแพ็ค” โดยใช้โควตาของโรงงานที่สามารถส่งออกได้
ซึ่งวิธีการดังกล่าวสุ่มเสี่ยงกับการผิดเงื่อนไขและข้อตกลงระหว่างไทย-จีน แต่ก็มี “เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์” ช่วยดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆให้กลายเป็นของถูกต้อง โดยที่เจ้าของโรงงานเจ้าของโควตาไม่รู้ตัวว่าถูกสวมสิทธิ์
ความมาแดงเมื่อทางการจีนตรวจสอบพบความผิดปกติของยอดนำเข้าไก่จากโรงงานในไทยว่า สูงผิดปกติในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จึงได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด
ความซวยตกมาที่โรงงานผู้ผลิตที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งถูกสวมสิทธิ์ และถูกแอบอ้างชื่อ ที่ต้องถูกตรวจสอบ และสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตัดสิทธิ์การส่งออก
ทั้งๆที่ เดิมที การพิจารณาการจัดสรรโควตาส่งออกไก่ของ กรมปศุสัตว์ ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่เป็นธรรมกับ “ผู้ส่งออกรายย่อย” อยู่แล้ว ยังมี “แก๊งงาบโควตา” มาเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีก
อีกทั้งยังมีกรณีที่กลุ่มชาวจีนถูกหลอกให้วางเงินมัดจำไปจำนวนกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นฝีมือของ “แก๊งงาบโควตาไก่” อีกด้วย
เป็นเหตุให้ “ผู้เลี้ยงไก่” ต้องเรียกร้องให้ “นายกฯตู่” และ “รัฐมนตรีพี่ต่อ” ตรวจสอบการทำงานของกรมปศุสัตว์ในเรื่องการจัดสรรโควต้าส่งออกไก่ทั้งหมด เพราะเกรงว่า หากทางรัฐบาลจีนสั่งระงับการนำเข้าไก่จากประเทศไทยได้
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ความเสียหายคงประเมินค่าไม่ได้ น่าสนใจว่า “นายกฯลุงตู่-รมต.พี่ต่อ” จะจัดการอย่างไร.