“เด็กไทยสร้างไทย” เผยช่างสักมีรายได้สูง เฉลี่ย 1 แสนบาทต่อด. คาดทั้งวงการสร้างเม็ดเงินแสนล.ต่อปี มั่นใจ อุตสาหกรรมการสัก ส่งเสริมพัฒนาต่อยอด สร้างรายได้ให้ประเทศได้ เผยร้านสักทั่วประเทศกว่า 1 แสนแห่ง แต่มีใบอนุญาตไม่ถึงครึ่ง ผู้ประกอบการขอช่วยเร่งแก้ สร้างมาตรฐานให้ต่างชาติมั่นใจ
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.66 นายนรุตม์ชัย บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จากที่ตนออกมาผลักดันเรื่องอุตสาหกรรมการสักเพื่อสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ ล่าสุด ได้รับข้อมูลจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านสักลายว่า ปัจจุบันมีร้านสักทั่วประเทศกว่า 1 แสนแห่ง แต่จำนวนนี้มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายไม่ถึงครึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านขนาดกลางและใหญ่ ส่วนร้านขนาดเล็ก หรือช่างสักที่ไม่มีหน้าร้าน ส่วนใหญ่จะไม่มีใบอนุญาต
“อยากผู้เกี่ยวข้องให้ช่วยขับเคลื่อนให้ร้านสักทั่วประเทศมีใบอนุญาต เพื่อเป็นการกำหนดมาตรฐาน จะได้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เพื่อรองรับการเติบโตที่สามารถพัฒนาได้อีกมาก” นายนรุตม์ชัย กล่าว
นายนรุตม์ชัย กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่ตนได้รับ ยังพบว่า ช่างสักที่มีประสบการณ์ จะมีรายได้ที่สูงมาก เฉลี่ย 5 พัน-3 หมื่นบาทต่อวัน หรือประมาณ 1.5 แสนบาทต่อเดือน ส่วนช่างสักที่ยังมีประสบการณ์น้อย ก็จะมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 3 พันบาทต่อวัน หรือ 9 หมื่นบาทต่อเดือน โดยค่าสักของช่างที่มีประสบการณ์ แบบเหมาจ่าย จะเริ่มต้นที่ 5 พันบาท ไปจนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับแบบและขนาดความใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เป็นอาชีพที่มีรายได้สูงมาก ดังนั้น ถ้ามีการพัฒนาให้ถูกทาง ก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ประกอบการร้านสักลายทั่วประเทศ รวมถึงสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ จากการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสักได้
นายนรุตม์ชัย กล่าวต่อว่า ตนและพรรคไทยสร้างไทยมองเห็นโอกาสที่สามารถผลักดันเรื่องนี้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้ แต่น่าเสียดาย ที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บข้อมูลเชิงลึก เพื่อสามารถนำไปวิเคราะห์พัฒนาต่อยอดได้ เช่น มูลค่าการสักลายทั่วประเทศต่อปีเท่าไร แต่เท่าที่นำรายได้ช่างสักต่อคน ที่เฉลี่ย 1 แสนบาทต่อเดือน มาคำนวณกับตัวเลขร้านสักลายทั่วประเทศกว่า 1 แสนแห่ง ก็จะพอเห็นมูลค่าของวงการสักที่มีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน หรือนับแสนล้านบาทต่อปี
“นับว่า อุตสาหกรรมการสัก ควรส่งเสริมพัฒนาต่อยอด เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงภาครัฐ ก็จะสามารถเก็บเงินเข้าประเทศได้มากขึ้น“ นายนรุตม์ชัย กล่าว.