กกต.เตรียมอำนวยความสะดวกคนพิการ-ทุพพลภาพ-ผู้สูงอายุ ใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมอบรม จนท.ให้มีความรู้ความเข้าใจ ย้ำ ตระหนักถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เสมอภาค
วันนี้ (27 มี.ค.) สำนักงาน กกต.แจ้งว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้น กกต.คำนึงถึงสิทธิในการเลือกตั้งของคนพิการทุพพลภาพและผู้สูงอายุ ตามที่มาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 บัญญัติไว้ จึงจะได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวกสําหรับการออกเสียงลงคะแนนของคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุไว้เป็นพิเศษ โดยการจัดวางคูหาออกเสียงลงคะแนนในที่เลือกตั้ง จะอยู่ห่างจากคูหาอื่นอย่างน้อย 1.50 เมตร โต๊ะวางคูหาออกเสียงลงคะแนนมีความสูงไม่เกิน 0.75 เมตร และจัดเก้าอี้ไว้ในคูหาออกเสียงลงคะแนนด้วย ส่วนคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จะคำนึงถึงลักษณะทางกายภาพของคนพิการ ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ หากไม่สามารถทำเครื่องหมายลงในบัตรเลือกตั้งได้ ให้ กปน. หรือญาติหรือบุคคลที่ไว้วางใจ เป็นผู้ทำเครื่องหมายลงในบัตรเลือกตั้งแทน โดยความยินยอมและเป็นไปตามเจตนาของคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุนั้น โดย กปน.จะบันทึกการกระทำดังกล่าวลงในรายงานเหตุการณ์ประจำที่เลือกตั้ง (ส.ส. 5/6) และให้ถือว่าเป็นการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ
สำหรับสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งกลาง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการจัดและควบคุมการออกเสียงลงคะแนน ณ ที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ โดย สำนักงาน กกต. ได้กำหนดสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการ ทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ ไว้จำนวนทั้งสิ้น 28 แห่ง ใน 23 จังหวัด กรณีสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ หีบบัตรเลือกตั้งในการออกเสียงลงคะแนน จะกำหนดสีหรือมีเครื่องหมายแสดงหีบบัตรเลือกตั้ง แต่ละใบไว้ให้แตกต่างกัน และจะมีการสื่อสารที่แสดงขั้นตอนและวิธีการออกเสียงลงคะแนนพร้อมอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการออกเสียงลงคะแนนไว้ให้แก่คนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุด้วย
นอกจากนี้ สำนักงาน กกต.ยังระบุว่า จะจัดการอบรม กปน.และประชาสัมพันธ์การเข้าถึงสิทธิในการเลือกตั้งของคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ ให้มีความรู้ความเข้าใจในการอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งสำนักงานฯตระหนักถึงสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ต่อคนพิการหรือทุพพลภาพ อย่างเสมอภาค ทัดเทียมกับบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะสิทธิในการเข้าถึงการเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดถึงความก้าวหน้า ความสามารถในการจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นมืออาชีพ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล