วันนี้(27 มี.ค.)ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 13 กรุงเทพมหานคร (ลาดพร้าว บึงกุ่ม) เปิดเผยถึงการพบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหัวคะแนนในพื้นที่ ที่เริ่มวางแผนซื้อเสียงอย่างเป็นระบบแล้วในขณะนี้ ตนได้รับแจ้งจากประชาชนภายในชุมชนต่างๆ ในเขตลาดพร้าว และบึงกุ่มมามากขึ้น ว่าในชุมชนต่างๆ เริ่มมีการเดินสายพบปะกับหัวคะแนนเพื่อจัดเลี้ยงและให้เงินกันแล้ว
ร.ท.ธนเดช กล่าวต่อว่า ตอนนี้มีการขยายเครือข่ายหัวคะแนนใหม่ๆ เกิดขึ้น ยิ่งหาได้มากยิ่งได้เงินเพิ่มจากคนที่นำเงินมาให้ และเริ่มมีการเช็คยอดหัวคะแนนในเครือข่ายกันอย่างคึกคัก ซึ่งคาดได้ว่าจะนำไปสู่การตระเตรียมซื้อเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย โดยแหล่งข่าวของตนระบุว่าตัวเลขล่าสุดในตอนนี้ อยู่ที่หัวละ 1,000-2,000 บาท โดยอาจจะมีการหักหัวคิวไป ให้เหลือถึงมือประชาชนหัวละ 500 บาท ซึ่งหากได้ตามเป้า จะมีการเพิ่มโบนัสให้กับหัวคะแนนด้วย
"สิ่งที่ผมทราบมาจากแหล่งข่าวที่ฝังตัวอยู่ในชุมชนต่างๆ นั้น ตรงกับสิ่งที่ประชาชนผู้หวังดีต่อประเทศชาติแจ้งตนมา ทั้งต่อหน้าเวลาลงไปหาเสียงและการแจ้งในทางลับ เป็นสัญญาณว่ากระบวนการทุจริตซื้อเสียงเริ่มเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบแล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะในเขตที่มีกระแสของพรรคก้าวไกลมาแรง ยิ่งมีความเคลื่อนไหวคึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจากสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากได้บทเรียนแล้วว่าการเลือกผู้สมัครจากเงินที่จ่าย ได้ส่งผลร้ายอย่างมหาศาลต่อทั้งระบบการเมือง ที่ทำให้ได้ผู้แทนที่ไร้คุณภาพและอุดมการณ์ และยังส่งผลเสียต่อประชาชนเอง ที่ทำให้ได้รัฐบาลที่ไร้ความสามารถมาบริหารเศรษฐกิจจนปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนตกต่ำลง"
ร.ท.ธนเดช ยังกล่าวต่อว่า กระแสความต้องการการเปลี่ยนแปลงให้เด็ดขาดได้ก่อเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ประชาชนต่างได้เห็นตัวเลือกที่แตกต่างกัน ได้เห็นการเมืองแบบเก่าที่ทำความเสียหายให้แก่ชาติ และการเมืองแบบใหม่ที่จะเป็นความหวังให้กับพวกเขา ทำให้ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง ว่ากระบวนการยิงกระสุนชุดใหญ่ครั้งนี้จะไม่นำไปสู่ผลลัพธ์อย่างที่พวกเขาคาดหวัง
ร.ท.ธนเดชยังกล่าวต่อไป ว่าสำหรับกระบวนการซื้อเสียงที่กำลังจะเกิดขึ้นขนานใหญ่ในขณะนี้ ตนต้องขอเตือนว่าพรรคก้าวไกล รวมทั้งในเขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม ที่ตนลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น มีอาสาสมัครและประชาชนผู้หวังดีกระจายอยู่ในทุกชุมชน มีการซักซ้อมตระเตรียมเพื่อจับตาการทุจริตอย่างเป็นระบบแล้วเช่นกัน หากหัวคะแนนคนไหนก็ตามทำในเรื่องที่ผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ตนก็พร้อมที่จะนำไปสู่การดำเนินการต่อไปในอนาคต
"ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้น ผมแนะนำว่าหากมีใครนำเงินมาให้ ทุกคนจะรับไปก็ได้ แต่ขอให้กาสั่งสอนบรรดาผู้ที่นำเงินมาแจกให้เหล่านั้น และตนยังอยากชวนให้คิดในมุมกลับว่านี่ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไรทั้งนั้น เพราะคนที่นำเงินมาแจกก็คือคนบาป นี่คือโอกาสที่ทุกคนจะได้ทำบุญครั้งใหญ่ให้ประเทศชาติ ด้วยการสั่งสอนนักการเมืองเหล่านี้ไม่ให้ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติได้อีก เพราะคนเหล่านี้หากได้รับเลือกตั้งเข้าไป ย่อมเข้าไปถอนทุนคืนมากกว่าที่แจกหลายเท่า แทนที่เงินเหล่านั้นจะได้กลายเป็นงบประมาณที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นได้"