“นรุตม์ชัย” เดินหน้ารับฟังปัญหากลุ่มผู้ประกอบการ “ร้านสักลาย” ขอช่วยดันใบวิชาชีพ “ช่างสัก” หวังช่วยยกระดับให้มีมาตรฐาน-คัดกรอง สร้างความเชื่อมั่น หนุนอุตสาหกรรมการสัก สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ แนะส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทย จัดทริปดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย
วันนี้ (24 มี.ค.66) นายนรุตม์ชัย บุนนาค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม กทม. พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า จากการที่ตนผลักดันอุตสาหกรรมการสัก ล่าสุด ได้ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการร้านสักลาย เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางที่อยากให้ช่วยขับเคลื่อนแก้ไข ซึ่งจากการพูดคุย ผู้ประกอบการร้านสักลาย เห็นด้วยที่จะมีคนเข้ามาช่วยส่งเสริมธุรกิจการสักลาย เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีความพยายามอยากจะยกระดับการสักลายให้มีมาตรฐาน ด้วยการผลักดันให้มีใบวิชาชีพ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
นายนรุตม์ชัย กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ประกอบการ จึงอยากให้ช่วยผลักดันเรื่องใบวิชาชีพช่างสักให้สำเร็จ เพื่อทำให้วงการสักลายมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เพราะการมีใบวิชาชีพ จะต้องผ่านการอบรม มีการสอบ พร้อมอยากให้มีองค์กรขึ้นมาควบคุมอย่างจริงจัง เพราะจะช่วยกำหนดมาตรฐานช่างสักได้ รวมถึงจะช่วยแก้ปัญหาช่างสักที่ไร้มาตรฐาน หรือ แอบลองสักกันเองแบบไม่มีความปลอดภัย เพราะในอนาคตหากใครไม่มีใบวิชาชีพ ก็จะไม่สามารถสักให้ลูกค้าได้ โดยใบวิชาชีพ ก็จะเหมือนกับอาชีพอื่นๆ เช่น แพทย์ ทนายความ นวดแผนไทย ซึ่งที่ผ่านมา ร้านสักลาย มักถูกตำหนิเหมารวมว่า ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่หลายร้าน มีมาตรฐาน มีรางวัลประกวดมากมาย รวมถึงมีลูกค้าชาวต่างชาติด้วย
นายนรุตม์ชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาร้านสักลาย จะให้เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐาน ต้องมีรางวัลประกวดมาการันตี เหมือนเป็นการทดแทนการควบคุมร้านให้มีมาตรฐาน ดังนั้น การส่งเสริมให้ช่างสักลาย มีใบวิชาชีพ ก็จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ จากนั้น เมื่อทำให้ร้านสักทั่วประเทศมีมาตรฐานสากลแล้ว ก็สามารถโปรโมทการท่องเที่ยวได้ โดยผู้ประกอบการ มองว่า ถ้าผลักดันส่งเสริมการสักพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทย ควบคู่ไปกับการสักสวยงาม ก็จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เดินทางมาได้
“อย่างเช่น ถ้ามีวัฒนธรรมเอกลักษณ์ความเป็นไทยในพื้นที่ต่างจังหวัด ก็สามารถจัดทริปให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เลย ได้ทั้งท่องเที่ยว และสักลายเอกลักษณ์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานรากอย่างแท้จริง เพราะเม็ดเงินจะกระจายไปตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ“ นายนรุตม์ชัย กล่าว.