วันนี้(23 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์,นางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-รองหัวหน้าพรรค ,นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการ ,นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค , พล.ท.ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน,นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค ,นางสาวสุขสุนันท์ กีรติดวงจันทร์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้าร่วมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 44 หรือ หรือมอเตอร์โชว์ 2023 ที่อิมแพค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้เยี่ยมชมบูธของค่ายรถต่างๆ จำนวน 28 ค่าย ได้แก่ โตโยต้า ออดี้ บีเอ็มดับเบิ้ลยู เบนซ์ ฮุนได เป็นต้น โดยมีประชาชนที่มาร่วมงานและบรรดาพริตตี้ต่างเข้ามาทักทายพูดคุยกับนายมงคลกิตติ์และคณะเป็นจำนวนมาก
โดยนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า นอกจากนโยบายที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประชาชนด้วยยาแรง เช่น การนำเงินอัดฉีด 22 ล้านครอบครัว ๆ ละ 1.5 แสนบาท วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท พร้อมกับอัดฉีดเงินพัฒนาหมู้บ้าน จาก งบปกติ ให้ หมู่บ้านละ 5 ล้านบาท/ปี 4 ปี หมู่บ้านละ 20 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดอาชีพ เงินหมุนเวียน ในธุรกิจชุมชน การหารายได้เพิ่มเติม เช่น การควบคุมบ่อนการพนันทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การขุดคลองไทย เพื่อนำเงินและผลประโยชน์มาจัดสวัสดิการให้ประชาชน รวมทั้ง ขณะนี้ ตนทราบว่า ประชาชนบ่นถึงค่าไฟฟ้าที่แพงเกินจริง ซึ่งทางพรรคฯ จะดำเนินการประกาศปรับลดบรรดาภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อตัดวงจรบรรดาคนที่เสวยสุขบนความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้ราคาพลังงานตรงตามความเป็นจริง ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นของประชาชน และค่าครองชีพลดลงทันที เป็นต้น ทางพรรคฯ ก็ยังมีนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทางพรรคฯ ก็ได้วางนโยบายไว้ว่า จะดำเนินการลดปริมาณรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดีเซล หรือรถยนต์แบบอื่นที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เข้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจำกัดเวลาเข้า-ออก , ลดหรือชะลอปริมาณงานก่อสร้างทุกประเภท หากมีการเร่งก่อสร้างต้องปิดพื้นที่ฝุ่นให้มิดชิด และพ่นละอองน้ำลดฝุ่น ตรวจระบบทางเดินหายใจให้ประชาชนฟรี รวมทั้ง หากพบผู้ฝ่าฝืน นอกจากมีการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดแล้ว ก็จะได้มีการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้เพื่อชดใช้ตามมูลค่าของค่าปรับ โดยกำหนดให้ 1 ต้นเท่ากับ 100 บาท เพื่อเป็นการสร้างจิตอาสาต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นการช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอนาคตด้วย รวมทั้ง ในเรื่องของการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษนั้น ภายในงานเองก็มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ซึ่งประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับเคลื่อนก็เริ่มทัดเทียมกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการขับขี่ แต่ขณะนี้ ยังมีราคาสูงเกินกว่าที่จะเอื้อมถึง ดังนั้น ทาง พล.ท.ดร.กฤตภาส ก็ได้เสนอแนวคิดที่ว่า ‘เอารถเก่า 15 ปีขึ้นไปมาเป็นส่วนลดในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า’ โดยจะมีมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นด้วย
ทางด้าน นางสาวภคอร กล่าวว่า พื้นที่ตั้งของอิมแพ็ค เมืองทองธานี นั้น ขึ้นอยู่ในการปกครอง ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด ซึ่งทางพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ได้ส่งว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว นั่นก็คือ น.ส.พรทิพย์ อินทศรี หรือ อุ๊ฟอิ๊ฟ
ซึ่งถือเป็นสุภาพสตรีคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจปัญหาของชาวปากเกร็ดเป็นอย่างดี เพราะสภาพของอำเภอปากเกร็ดซึ่งในหลายๆส่วนแทบจะแยกไม่ออกจากกรุงเทพมหานคร แต่ก็มีบางส่วนยังรักษาความเป็นธรรมชาติและคงความเป็นสังคมเกษตรกรรมเอาไว้ รวมทั้ง ปัญหาภายในเมืองทองธานีเองที่ต้องยอมรับว่า มีสภาพแออัดเป็นอย่างมาก ซึ่งหากจะแก้ปัญหาโดยใช้นิติบุคคลหรือบริษัทผู้ดูแลแต่เพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อนได้ ดังนั้น หากประชาชนในพื้นที่เขต 4 ปากเกร็ด เลือก น.ส.พรทิพย์ หรือ อุ๊ฟอิ๊ฟ เป็นตัวแทนแล้ว ก็จะได้คนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล พร้อมแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ทันที